การไหลบ่าของผู้อพยพผิดกฎหมายมาประเทศไทยทำให้เกิดความกังวลเรื่องโควิด

เอกสารแจกนี้จากกองทัพบก ถ่ายเมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 และเผยแพร่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ควบคุมตัวผู้อพยพผิดกฎหมายในที่ที่ไม่เปิดเผยใกล้บริเวณชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

ขอให้ทางการไทยเพิ่มการตรวจสอบภาคสนามในโรงงานและธุรกิจต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ว่าจ้างแรงงานข้ามชาติที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องและได้รับวัคซีนครบถ้วนจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เช่นเดียวกับที่จังหวัดสมุทรสาครเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ตามรายงานของ Center for COVID-19 Situation Administration (CCSA) ผู้อพยพผิดกฎหมาย 3,833 คนจากเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเมียนมาร์และกัมพูชา ถูกทางการไทยจับกุมระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน^{เซนต์} และ 7^NS. วันที่ 2 พฤศจิกายน^NS เพียงอย่างเดียว 1,194 ถูกจับกุม ไม่มีตัวเลขเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่พยายามหลบหนีการจับกุม

มีรายงานว่าแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่จ่ายเงินให้กับแก๊งค้ามนุษย์ชาวไทยและเพื่อนบ้านที่ใกล้เคียงกันคนละหลายพันบาทเพื่อช่วยลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ผ่านการข้ามแดนตามธรรมชาติ เพื่อหางานทำในจังหวัดต่างๆ รวมทั้งกรุงเทพฯ สมุทรสาคร และเชียงใหม่

อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.โอภาส กาญจน์กวินพงศ์ ยอมรับว่าการหลั่งไหลของแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เกิดความกังวลอย่างมาก โดยชี้ให้เห็นว่าการระบาดของ COVID-19 ก่อนหน้านี้ สืบเนื่องมาจากตลาดสดที่มีแรงงานข้ามชาติจำนวนมาก

ขณะที่ยอมรับว่าธุรกิจจำนวนมากในประเทศไทยต้องการแรงงานต่างด้าว เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่แรงงานเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายและต้องได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถติดตามได้ว่าพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่