รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ของไทยจะลาออกหลังจาก 26 วัน

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี นายปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง รัฐมนตรีลาออก ระบุว่า “ด้วย นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2563 ความเป็นรัฐมนตรีของนายปรีดี ดาวฉาย จึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2563 ตามความในมาตรา 170 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ลงท้ายประกาศโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2563

ก่อนหน้านี้สื่อหลายสำนัก ได้แก่ มติชน ฐานเศรษฐกิจ รายงานตรงกันว่า นายปรีดี ยื่นจดหมายลาออกต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุเหตุผลการลาออกว่าป่วย

สำหรับนายปรีดี วัย 61 ปี เข้ารับตำแหน่ง รมว.คลัง ในโควตากลางของนายกฯ ที่ตัดมาจากโควตาของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา และเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 ส.ค. รวมระยะเวลาการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่ถึง 1 เดือน ก่อนยื่นใบลาออก

เขาเป็นอดีต “นายธนาคารสายกฎหมาย” โดยทำงานให้กับธนาคารกสิกรไทยมานานกว่า 3 ทศวรรษ มีตำแหน่งสูงสุดเป็นกรรรมการผู้จัดการ ก่อนกระโจนลงสู่เส้นทางการเมือง

ในวันเข้ากระทรวงการคลังครั้งแรกเมื่อ 17 ส.ค. เพื่อมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวง พร้อมพบปะสื่อมวลชน เขายืนยันว่าจะมีมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มเติมซึ่งวงเงินที่มีอยู่ยังเพียงพอ แม้ช่วงนี้รัฐบาลจะมีรายจ่ายสูง และรายได้รัฐลดลงก็ตาม พร้อมปฏิเสธว่า “รัฐบาลไม่ได้ถังแตก”

นายปรีดี ดาวฉาย ถ่ายรูปกับคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 2/2 ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 ส.ค.

นายปรีดี ลาออกหลังจากเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน และเกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจของไทยกำลังประสบปัญหา โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพิ่งประกาศเมื่อกลางเดือน ส.ค. ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของปี 2563 ติดลบ 12.2% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจการเงินในปี 2540

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่ำสุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยอัตราการเติบโตของจีดีพีติดลบ 7.7% ในขณะที่ เวียดนามจะเป็นชาติที่มีอัตราการเติบโตในแดนบวก 2.7% ร่วมกับอีก 3 ประเทศคือ เมียนมา เติบโต 1.8% บรูไน เติบโต 1.3% และลาวเติบโต 0.7

ประวัตินายปรีดี ดาวฉาย

การศึกษา: ปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย, ปริญญาโท กฎหมายเปรียบเทียบ ม.อิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐฯ

นายปรีดี ถือเป็น “ลูกหม้อ” ของ บมจ.กสิกรไทย ขนาดแท้ เพราะเขาได้ทุนธนาคารแห่งนี้ไปเรียนต่างประเทศ จากนั้นเมื่อกลับมาทำงาน-ใช้ทุน เขาก็อยู่ภายใต้องค์กรแห่งนี้นานกว่า 3 ทศวรรษ ไต่ระดับจากการเป็น นิติกร สู่ ผู้อำนวยการฝ่าย, ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ, รองกรรมการผู้จัดการ และขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะกรรรมการผู้จัดการ

ด้วยสถานะ “นายธนาคารใหญ่” และประธานสมาคมธนาคารไทย ทำให้นายปรีดีมี “ความสัมพันธ์ทางการงาน” กับรัฐบาล “ประยุทธ์” ในหลายกรรมหลายวาระ ทั้งในยุคหลังรัฐประหารและหลังการเลือกตั้ง เคยเป็นที่ปรึกษาโครงการลงทุนของภาครัฐ, กรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.), กรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ), กรรมการที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชน ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รวมถึงกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่จัดทำขึ้นมาในยุครัฐบาล คสช. – BBC