Health
จิตแพทย์ญี่ปุ่นพบ 3 วิธีลดความเครียด
ความเครียด
ระดับความเครียดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล มีบางคนที่มีแนวโน้มที่จะเกิดความเครียดและประสบกับความเครียดเป็นเวลานาน มีบางคนที่ประสบกับความเครียดแต่เชี่ยวชาญในการจัดการกับมัน
ในทางกลับกัน การสะสมความเครียดเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ ดร. ไม มินามิ นักจิตวิทยาชาวญี่ปุ่น จะสอนเราถึงวิธีใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแม้จะมีแรงกดดันจากชีวิตสมัยใหม่ โดยสอนให้เรารู้วิธีจัดการกับความเครียด
หลักการทางจิตวิทยาที่สำคัญในการจัดการกับความเครียด
ดร. Mai Minami อธิบายว่ากุญแจสำคัญในการจัดการกับความเครียดคือความรู้สึกเชื่อมโยงกันของเรา ซึ่งเป็นแนวคิดที่พัฒนาโดย Dr. Aaron Antonovsky นักสังคมวิทยา (นักสังคมวิทยา) อเมริกัน-อิสราเอลที่สนใจศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเครียด สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี
ความเข้มแข็งในทัศนคติ หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการรับมือกับปัญหาอย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้บุคคลนั้นสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วย 3 หลักการคือ
- ความสามารถในการเข้าใจสถานการณ์
ความรู้สึกเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีเหตุมีผล มีความสอดคล้องกัน และพิจารณาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายได้
- ความสามารถในการจัดการ
การรู้สึกว่าแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ก็มีความสามารถในการแก้ปัญหา และก้าวต่อไปได้
- ความรู้สึกถึงการมีความหมาย
การเข้าใจว่าทุกสิ่งมีความหมายรวมถึงความรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มีความหมายกับชีวิต และมีค่าจากการใช้เวลาและความพยายาม
วิธีการสร้างความเข้มแข็งในการมองโลกให้เกิดขึ้น
พลังพิเศษเพื่อจัดการกับความเครียดของคนเราไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด แต่สามารถสร้างได้ด้วยการฝึกฝนให้เกิดขึ้น ดังนี้
- การรวบรวมแหล่งข้อมูล
การรวบรวมข้อมูลโดยการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คน การหาความรู้และวิธีการบรรเทาความเครียดจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ดูยูทูบ หรือช่องทางอื่นๆ เป็นหนึ่งวิธีการที่จะทำให้คนเราสามารถตั้งรับและขจัดความเครียดที่อาจเกิดขึ้นได้
- สร้างนิสัยการมองแต่ปัจจุบัน
คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงความผิดพลาดในอดีตที่ไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังกังวลถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต โดยหากกังวลเกี่ยวกับอดีตและอนาคตมากเกินไปจะทำให้เกิดความกังวลและเครียดมากขึ้น ดังนั้นต้องฝึกให้ความสำคัญกับสถานการณ์ปัจจุบันว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นในตอนนี้
- ให้ความสำคัญกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
ความตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ได้ทำ แม้ว่าจะเป็นอะไรเล็กๆ แต่หากเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งที่กำลังทำอยู่ก็จะมองเห็นความสำเร็จที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้รู้สึกมีความมั่นใจและรู้สึกว่าผลงานคือรางวัลจากการกระทำ ในทางกลับกันหากมัวเอาแต่ใส่ใจกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำก็จะทำรู้สึกเครียด
ปัจจุบันนี้มีสถานการณ์ทั่วโลกที่ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย เช่น การระบาดของโควิด-19 และข่าวสงคราม รวมถึงการพบเจอกับความยุ่งยาก การฝึกตนเองให้จัดการและผ่านพ้นความเครียดไปได้ จะเป็นเกราะป้องกันให้เราอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข มาฝึกนิสัยที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งในการมองโลกกัน
Related CTN News: