ตร.จับสามีแทงภรรยา 6 ครั้งแล้วจุดไฟเผา

จับแล้วผัวโหดจุดไฟเผาเมียก่อนแทงซ้ำดับสยอง นายต้น เปิดใจยอมรับว่าทำจริง จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว. เมื่อถามว่าเตรียมจะมาหรือไม่ นายต้น อ้างว่าไม่ได้เตรียมการมาก่อน

ความคืบหน้าเหตุสามีหึงโหดสาดน้ำมันใส่ภรรยาแล้วแทงซ้ำที่รางน้ำ หลังขับรถกระบะมากับภรรยาเกิดมีปากเสียงกันระหว่างทาง

จังหวะที่ชายจอดรถซื้อของข้างทาง หญิงชาวบ้าน เผลอวิ่งหนีลงจากรถมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน จนกระทั่งสามีวิ่งไล่ตามไปหยิบขวดน้ำมันเบนซินจุดไฟเผาร่างจนผิวหนังไหม้ เมียโดดลงรางน้ำหนีตาย

แต่สามีคลุ้มคลั่งตามแทง 6 แผล ดับอนาถ ขู่พลเมืองดีอย่าเข้าไปยุ่ง ก่อนกลับขึ้นรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหตุเกิดในซอย 9A นิคมอุตสาหกรรมบางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ เวลา 15.00 น. ในวันที่ 7 มีนาคม 2566

ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 7 มี.ค. 2566 พ.ต.อ. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทราสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.บางปู มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ไปไล่บี้เอง นายพิสุทธิ์ศิริ (หรือต้น) จันทร์โสดา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาและกดดันตามภูมิลำเนาที่เชื่อว่า นายพิสุทธิ์ศิริ หลบหนี พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เร่งไล่ล่านำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว. เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจ.

ต่อมาภายหลังศาลจังหวัดสมุทรปราการอนุมัติหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สืบทราบว่า นายพิสุทธิ์ศิริได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถูกจับกุมตัวได้ขณะจอดอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงก่อนควบคุมตัว มาสอบปากคำที่ สภ.บางปู ต่อไป

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ หลวงวิไล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว ให้การรับสารภาพว่า ตนกับ นางณัฐนันท์ ชุมฟอง อายุ 45 ปี ผู้ตาย ได้อยู่กินกันมาระยะหนึ่ง ต่อมาพบข้อความขอให้ผู้ตายคุยกับคนอื่นแบบลับๆ จึงโกรธจนมีปากเสียงกัน ต่อมา ผู้ตายอยู่กับเพื่อนได้ประมาณ 4-5 วัน กระทั่งช่วงสายของวันเกิดเหตุ

ผู้ต้องหานัดผู้ตายมาหาตน และชักชวนกันไปทำบุญที่วัดคลองเก้า หลังจากทำบุญ ทั้งสองก็ไปนั่งคุยกันที่หน้าทางเข้าสนามกอล์ฟ ใกล้ที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้น คู่กรณีเห็นข้อความของผู้ตายที่แอบคุยกับชายอื่น จึงเกิดโมโหและโต้เถียงกันอย่างรุนแรง จนผู้ต้องหา เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้น้ำมันที่เตรียมมาราดภรรยาสุดที่รักและราดตัวด้วย พร้อมขู่จะเผาทั้งคู่ให้ตายพร้อมกัน ขณะนั้น ผู้ตายใจดีกับเสือแกล้งพูดจาดี ๆ กับผู้ต้องหาจนสงบสติอารมณ์

ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุและเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำมัน แต่จังหวะนั้นผู้ต้องหาได้แวะซื้อไอศกรีม ผู้ตายอาศัยจังหวะที่เผลอวิ่งออกจากรถไปขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นผู้ต้องหาเริ่มตกใจ

จึงย้อนกลับมาสาดน้ำมันใส่รถผู้ตายขณะซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง นายประพัทธ์ กะภูคำ อายุ 58 ปี พลเมืองดี ก่อนจะหยิบไฟแช็กจุดไฟเผา น.ส.ณัฐนันท์ เป็นเหตุให้ นายประภาส ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บเช่นกัน . ต่อมานางณัฐนันท์ ผู้ตาย ได้วิ่งลงไปในน้ำ แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมแพ้ ยังวิ่งกลับไปที่รถหยิบมีดยาวกว่า 40 ซม. ตามไปแทง นางณัฐนันท์ จนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปกบดานในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จนถูกจับกุมได้พร้อมของกลางมีดยาวประมาณ 40 ซม. และ รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒฐ 5783 กทม. ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางปู ต่อไป

ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้เตรียมการมา ส่วนน้ำมันเบนซินอ้างว่าซื้อมาเติมรถจักรยานยนต์ แต่ จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำต่อไป