Chiang Rai News
เชียงราย ตำรวจ ปส จับเฮโรอีนชายแดนส่งพัสดุ
เชียงราย – พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 และเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย นำตัวนนางเจิ้งหยิ่ง แซ่หยั่ง อายุ 45 ปี ชาว ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และนายสมศักดิ์ พิทักษ์ภูพาน อายุ 34 ปี ชาว ต.เวียง อ.เชียงแสน พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) น้ำหนักรวม 26.2 กิโลกรัม มาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีและขยายผลการจับกุม
หลังจากวันที่22 มี.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดได้นำเฮโรอีนจำนวนมากส่งทางบริษัทรับส่งพัสดุเอกชน เจ้าหน้าที่จึงไปตวรจสอบที่สำนักงานสาขาของบริษัทเคอรี่เอ๊กเพลส จำกัด เลขที่ 666/7 หมู่ 8 ต.เวียง อ.เชียงแสน พบกล่องพัสดุสีส้มที่มีคนนำไปส่งทิ้งเอาไว้จำนวน 3 กล่อง เมื่อเปิดออกดูปรากฎว่าทุกกล่องบรรจุยาเสพติดประเภทเฮโรอีนโดยกล่องแรกมีน้ำหนัก 9.9 กิโลกรัม กล่องที่ 2 มีน้ำหนัก 9.9 กิโลกรัม และกล่องสุดท้ายมีน้ำหนัก 6.4 กิโลกรัม จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางและตรวจสอบขยายผลติดตามผู้ส่งพัสดุทั้งหมด
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สกัดไว้ได้ที่ตู้ยามตำรวจแม่มะ ต.ศรีดอนมูลอ.เชียงแสน ซึ่งกำลังเดินทางไปด้วยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ขฆ-8266 กรุงเทพฯ โดยได้นำมาสอบปากคำที่สภ. เชียงแสน จากนั้นตั้งข้อหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีนี้ทางตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้สบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเครือข่ายนายตี๋ชาว อ.เชียงแสน จะนำเข้าเฮโรอีนสู่ชั้นในของประเทศตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยทราบว่าจะใช้เส้นทางและบริษัทรับส่งพัสดเอกชนดังกล่าว ต่อมาวันที่ 18 มี.ค.ก็ทราบว่านายตี๋ได้เดินทางไปรับยาเสพติดจากพวกในท้องที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่อยู่ติดกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ของกลางทั้ง 2 คันขับจาก อ.เชียงแสน ไปทาง อ.แม่สาย และขับกลับมาโดยคันหนึ่งเข้าไปจอดอยู่บริเวณบ้านของนายสมศักดิ์ กระทั่งวันที่ 22 มี.ค.ก็พบผู้ต้องหาขนของกลางใส่กล่องไปส่งที่บริษัทเคอรี่เอ็กซ์เพลส สาขาเชียงแสน ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจภายหลังของพบของกลางในกล่องพัสดุ 3 กล่อง ทั้งหมดบรรจุเฮโรอีนโดยกล่องแกมีน้ำหนัก 9.425 กิโลกรัม กล่องที่ 2 น้ำหนัก 6.460 กิโลกรัม และกล่องสุดท้ายน้ำหนัก 1.035 กิโลกรัม โดยกล่องที่ 1-2 ระบุว่าส่งให้กับคนชื่อว่านายไพโรจน์ ส่วนกล่องที่ 3 ส่งให้นางอำพร พร้อมมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับเอาไว้ด้วย