Sports News
“อาร์เจนตินา” เฉือน “บราซิล” 1-0 ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเกมใหญ่ของศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อเช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน ตามเวลาบ้านเรา เมื่อทีมชาติอาร์เจนตินาสามารถบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ บราซิล 1-0 ได้ถึง มาราคาน่า ซึ่งถือเป็นสนามอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวบราซิเลี่ยนก็ว่าได้
วันที่ 22 พ.ย. 66 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ คู่นี้ เป็นการพบกันของสองอริยักษ์ใหญ่วงการลูกหนังโลก ระหว่าง “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล เปิดสนามมาราคานา ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ต้อนรับการมาเยือนของ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ดีกรีแชมป์เก่า รายการนี้ เมื่อปี 2022
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 63 “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้เฮสนั่นเหนือคู่แข่ง เมื่อมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากการทำประตูของ นิโคลัส โอตาเมนดี ทำให้สถานการณ์ของเจ้าบ้านตกเป็นรอง จากนั้นนาทีที่ 81 สถานการณ์ของเจ้าบ้านย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ โจเอลินตัน มาโดนใบแดงโดยตรง ถูกไล่ออกจากสนาม
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา บุกมาเอาชนะ “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล ทำให้ทีมเยือนมี 15 คะแนน จาก 6 นัด ขณะที่เจ้าบ้าน มี 7 คะแนน จาก 6 นัดเท่ากัน.
เวทมนตร์ มาราคาน่า ไม่ช่วย
แม้ว่า มาราคาน่า จะเป็นสนามที่เปรียบเหมือนวิหารของคนบราซิเลี่ยน แต่ในทางกลับกัน อาร์เจนตินา ก็ถือว่าถูกโฉลกกับการมาเล่นที่นี่เหมือนกัน เพราะนี่เท่ากับว่าพวกเขาคว้าชัยเหนือ บราซิล ที่สังเวียนแห่งนี้ได้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันแล้ว โดย 2 หนก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 1998 กับศึก โกปา อเมริกา นัดชิงชนะเลิศ 2021
นอกจากนี้ มันก็เหมือนกับเรื่องบังเอิญที่สกอร์ของทั้ง 3 เกมจบลงที่ 1-0 ทั้งหมดด้วย ขณะที่ นิโกลัส โอตาเมนดี้ คนที่ทำประตูชัยให้ อาร์เจนตินา ในวันนี้ ก็กลายเป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2000 ที่ทำประตูใส่ บราซิล ในการเล่นที่ มาราคาน่า ได้เช่นกัน โดยคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาคือ ดาริโอ ซิลบา ดาวเตะ อุรุกวัย ซึ่งทำได้ในเกมที่ อุรุกวัย เสมอกับ บราซิล 1-1
เกมรับสุดแกร่ง
แม้ว่าจะขึ้นชื่อเรื่องเกมรุก แต่เกมรับของ อาร์เจนตินา ก็ทำผลงานได้น่าพอใจเช่นกัน จนทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่เสียประตูในเกม ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับการเล่นในฐานะทีมเยือน 3 นัดติดต่อกันแล้ว (2 เกมก่อนหน้านี้คือนัดที่ชนะ โบลิเวีย 3-0 และนัดทุบ เปรู 2-0) ซึ่งนี่ถือเป็นหนแรกที่พวกเขาทำแบบนั้นได้
ข่าวที่กำลังมาแรง:
คณะรัฐมนตรีของประเทศไทยได้อนุมัติกฎหมายให้สิทธิแก่คู่รักเพศเดียวกันอย่างเท่าเทียมกัน