News
ผู้มีอิทธิพลด้านกีฬาเผชิญข้อหาส่งเสริมการพนันออนไลน์ในประเทศไทย
วันนี้อินฟลูเอนเซอร์ด้านกีฬาที่มีชื่อเสียงถูกจับกุมในข้อหาโปรโมตการพนันออนไลน์บนหน้า Facebook ของพวกเขา พวกเขายอมรับโดยอ้างถึงรายได้จำนวนมากและค่าใช้จ่ายจำนวนมากเป็นเหตุผล
สำนักงานสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สสท.) เรียกตัวอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในวงการกีฬาวันนี้ พวกเขาถูกกล่าวหาว่ายุยงให้เล่นการพนันทางอินเทอร์เน็ตโดยการโพสต์ข้อความ ซึ่งพวกเขายอมรับ
ตามที่ผู้มีอิทธิพลระบุ พวกเขาโพสต์ลิงก์ไปยังสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นเว็บไซต์การพนันออนไลน์อย่างเป็นทางการของสโมสรนานาชาติ โดยเชื่อว่ามันถูกต้องตามกฎหมาย ลิงก์เหล่านี้ถูกอัพโหลดบนเพจ Facebook ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 160,000 คน ในรายการข่าวทั่วไป มีรายได้เดือนละ 40,000 ถึง 50,000 บาท
อินฟลูเอนเซอร์เริ่มดำเนินการนี้ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหยุดและเริ่มเป็นระยะๆ พวกเขาระบุว่ากิจกรรมของพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากรายได้ที่สูงและค่าใช้จ่ายของครอบครัว และพวกเขาเตือนผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ อย่าทำผิดกฎหมาย
รองผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ. พล.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน เปิดเผยว่า…
“ภายใต้พระราชบัญญัติการพนัน การโพสต์หรือถ่ายทอดสดเพื่อสนับสนุนให้ผู้คนเล่นการพนันถือเป็นความผิดทางอาญา” ในสถานการณ์เช่นนี้ อาจต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อประเมินว่าเนื้อหาดังกล่าวมีผลกระทบด้านลบต่อสาธารณะหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการละเมิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์”
การขยายงานวิจัย
นอกจากนี้ การตรวจสอบเว็บไซต์เกมที่ระบุจะถูกขยายออกไป เจ้าหน้าที่จากกรมตำรวจได้ตรวจสอบเว็บไซต์การพนันและกำลังดำเนินการเพื่อปิดสี่เว็บไซต์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประโยชน์มหาศาลของการดำเนินงานเว็บไซต์ดังกล่าว เว็บไซต์การพนันใหม่ๆ จึงมีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้มีกลุ่มบุคคลที่เต็มใจรับอันตรายจากการก่ออาชญากรรมเหล่านี้ บุคคลสาธารณะหลายคนเรียกร้องให้ผู้คนเล่นการพนัน ตำรวจจะนำตัวพวกเขาไปเผชิญข้อหาเพิ่มเติม
เขาย้ำว่าถึงแม้การพนันออนไลน์และการพนันประเภทอื่น ๆ จะได้รับอนุญาตในบางประเทศ แต่ก็เป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศไทย ห้ามแม้แต่การโฆษณาเนื่องจากถือเป็นการส่งเสริมการพนันในประเทศไทย
นอกจากนี้เขายังแนะนำผู้มีอิทธิพลทุกคนว่าหากพวกเขาหลอกลวงประชาชนหรือสนับสนุนการพนันควรหยุดเพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย เป็นการดีกว่าที่จะมีส่วนร่วมในการดำเนินการซื้อขายที่ถูกกฎหมาย
Related CTN News: