Lifestyles - ไลฟ์สไตล์
วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท (Car Seat) ให้เหมาะสมและปลอดภัย
วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท (Car Seat): คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน พอได้มีเวลาว่างจากการทำงาน แน่นอนว่าก็คงอยากจะใช้เวลาในวันหยุดไปกับการดูแลเจ้าตัวน้อยมากกว่าปกติซักหน่อย และสิ่งที่จะทำให้หนู ๆ
แฮปปี้ดี๊ด๊าที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการไปเที่ยว ขอแค่ได้ไป จะใกล้จะไกลหนูไม่ติด!
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่! พออยากพาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด จะอุ้มมานั่งตักตลอดเวลาเหน็บก็อาจจะกินขาได้
ยิ่งถ้าต้องขับรถเอง แล้วให้เจ้าตัวเล็กคาดเข็มขัดนิรภัยก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะมันดูไม่ได้ออกแบบมาให้เข้ากับร่างกายของเด็ก ๆ ซะเลย นวัตกรรมที่เรียกว่าคาร์ซีท (Car seat) หรือ อุปกรณ์ที่นั่งเสริมสำหรับเด็กจึงเกิดขึ้นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพ่อแม่ทุกคน
เพราะมีการสำรวจว่าเด็กที่นั่งในคาร์ซีท จะลดโอกาสบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลงถึง 71%
ทุกบ้านก็หาซื้อมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่คำถามคือ! จะเลือกคาร์ซีทยังไงให้เหมาะกับลูก?
วิธีเลือกประเภทของคาร์ซีทตาม “อายุ”
1. คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด (Rear-facing)
สำหรับเบบี๋วัยอ้อแอ้แบเบาะ อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบควรจะต้องใช้ที่นั่งแบบที่ปรับให้หน้าของหนูหันไปด้านหลังรถ (Rear-facing car seat) แต่ถ้าเทียบเป็นน้ำหนักก็ประมาณ 10 กิโลกรัม สูงไม่เกิน 1 เมตร
ที่นั่งแบบนี้สามารถปรับเอนนอนไปกับที่นั่งได้ด้วย ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันส่วนลำคอและกระดูกสันหลังของหนูน้อยได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหัวเริ่มเลยคาร์ซีทแล้วก็ควรจะเปลี่ยนได้แล้วนะ
2. คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก (Forward-facing)
เตาะแตะ เตาะแตะ เดินเริ่มคล่อง พูดชัดขึ้นแล้ว ต้องใช้ที่นั่งแบบหันมาด้านหน้าตามปกติ (Forward-facing car seat) ซึ่งเหมาะกับเด็ก ๆ อายุ 2-7 ขวบ ที่น่าจะน้ำหนักเกิน 10 กิโลกรัมและสูง 1 เมตรขึ้นไปแล้ว
คาร์ซีทแบบนี้จะมีสายรัดลำตัวเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุดจัดเต็มไปเลย โดยจะรัดหัวไหล่ข้างละเส้น รัดที่เอว 2 เส้นแน่นๆ และผ่านหว่างขาอีก 1 เส้น ซึ่งทุกเส้นจะมารวมกันตรงกลางตัวของเจ้าตัวน้อยนั่นเอง
3. คาร์ซีทบูสเตอร์สำหรับเด็ก (Booster)
โตขึ้นมาอีกนิดจนถึงวัยซุกซน ช่วงอายุตั้งแต่ 4-10 ขวบ แต่จริง ๆ ควรจะวัดว่าลูกมีน้ำหนักตั้งแต่ 15-36 กิโลกรัมและสูง 1 เมตรขึ้นไปแน่นอนแล้ว ก็เปลี่ยนมาใช้เบาะนั่งรองก้นเสริมหลัง (Booster) ซึ่งมีทั้งแบบมีสายรัดปกติและแบบที่ไม่มีสายรัดติดตั้งมากับที่นั่ง แต่สามารถเพิ่มความสูงให้ที่นั่งของคุณลูกให้พอดีกับตำแหน่งเข็มขัดนิรภัยชองรถ นอกเหนือจากการวัดด้วยตัวเลขอายุ น้ำหนักหรือส่วนสูง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวัดจากสายตาเท่านั้น ถ้าเริ่มเห็นว่าลูกนั่งหลังพิงพนักพอดี งอเข่าพ้นขอบเบาะ สายเข็มขัดด้านบนพาดอยู่กลางบ่าพอดี ด้านล่างพาดพอดีต้นขาและสะโพก ก็สามารถเอา Booster ออกไปและให้ลูกใช้เข็มขัดนิรภัยของตัวรถต่อไปได้เลย
ปัจจุบันนี้มีหลายๆ ร้านในเมืองไทยที่นำเข้า car seat ที่ได้มาตรฐานทั้งจากเกาหลีและยุโรป ตัวอย่าง car seat ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Daiichi (ดูตัวอย่างในบทความอ้างอิงท้ายบทความ)
ขอบคุณ
- คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี? คำถามยอดฮิตกับวิธีเลือกซื้อที่ถูกต้อง
- ตัวอย่าง car seat ที่เป็นที่นิยม
- Choosing the Best Car Seat