learning - การเรียนรู้
คุณสามารถทอดเนื้อในน้ำมันมะกอกได้หรือไม่?
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และมีความต้องการที่จะสนับสนุนการใช้ในการปรุงอาหาร อย่างไรก็ตาม มีน้ำมันมะกอกหลายชนิด การเลือกน้ำมันมะกอกมาทำอาหารจึงต้องเลือกชนิดของน้ำมันมะกอกให้เหมาะกับประเภทของอาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากน้ำมันมะกอกของคุณ
คุณสามารถทอดเนื้อในน้ำมันมะกอกได้หรือไม่?
ถ้าใช้น้ำมันมะกอกถูกประเภทก็ทอดได้เลย น้ำมันมะกอกมีหลายประเภท ได้แก่ :
- น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin) มักนำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน แต่ไม่เหมาะกับการในการทอด หรือผัด
- น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (virgin) มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ดังนั้นยังถือว่าดีต่อสุขภาพเหมือนกัน แค่ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย สามารถนำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน แต่ไม่เหมาะกับการใช้การทอด หรือผัด
- น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil) เป็นน้ำมันที่ผสมผสานกันระหว่าง น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น กับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น แต่เพิ่มเติมคือทนความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถนำไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนแบบเร็วๆ ได้ แต่ก็ยังทอดไม่ได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นก็จะหายไป กลายเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนเดิม
- น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil) เป็นน้ำมันประเภทข้างบนแบบเพียวๆ โดยที่ไม่มีน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นผสมอยู่ ยังถือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารดีๆ อยู่บ้าง แต่ก็หายไปบ้างจากการสกัดเอาสี กลิ่น รส เดิมออกไปโดยผ่ายกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ทำให้นำมันค่อนข้างใส และมีราคาไม่สูง แต่สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน จึงสามารถนำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา
- น้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil) แม้ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอกเกรดคุณภาพต่ำที่สุด แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภททอดที่ใช้เวลานาน แต่ก็มีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายสูงกว่าน้ำมันมะกอกชนิดอื่นๆ เช่นกัน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก
เป็นผลให้น้ำมันมะกอกเหมาะสำหรับการทอดอาหาร การทอดเนื้อสัตว์ทำด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil) ซึ่งมีจุดเกิดควันสูงกว่าน้ำมันคาโนลาที่อุณหภูมิ 242 องศาเซลเซียส น้ำมันดอกคำฝอยจากข้าวโพด เนื่องจากน้ำมันถั่วลิสง น้ำมันปาล์ม และน้ำมันมะพร้าวมีจุดเกิดควันที่ 191 องศาเซลเซียส จึงสามารถใช้ปรุงอาหารได้
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกเมื่อนำไปประกอบอาหาร
หลายคนเชื่อว่าการกินน้ำมันมะกอกที่ร้อนจัดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ นี่เป็นอีกตำนานที่แพร่หลายเกี่ยวกับน้ำมันมะกอก เพราะกรดไขมันในน้ำมันมะกอก ส่วนใหญ่ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว กรดไขมันรูปแบบนี้สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้
ตรงกันข้ามกับกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน แตกตัวเร็วเมื่อได้รับความร้อน และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ น้ำมันมะกอกยังมีวิตามินอีสูง ปราศจากคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังมีไขมันไม่อิ่มตัวสูงถึง 77% ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ทอดอาหาร ใช้น้ำมันอะไรดีที่สุด
ใช้น้ำมันรำข้าวหรือน้ำมันถั่วเหลืองในการผัดหรือผัดแทนน้ำมันพืช น้ำมันที่ได้จากคาโนลา มะกอก อัลมอนด์ และเมล็ดงา รวมทั้งดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันข้าวโพด น้ำมันอื่นๆ
เมื่ออาหารทอดที่อุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลานาน กรดไขมันอิ่มตัวซึ่งมีทั้งน้ำมันปาล์มและน้ำมันหมู จำเป็นต่อการปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกทั่วถึง ดังนั้นจึงสามารถใช้สำหรับการทอดอาหารที่อุณหภูมิสูงสุดที่เป็นไปได้
ข้อควรระวังในการใช้น้ำมันมะกอกปรุงอาหาร
หากใช้น้ำมันมะกอกประเภทที่ไม่เหมาะสมในการทอดอาหาร เช่น น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ แทนที่จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจกลายเป็นโทษได้เพราะทำให้คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันมะกอกลดลง และไขมันที่เป็นประโยชน์จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันที่ให้โทษต่อร่างกาย
สิ่งสำคัญคือต้องเก็บน้ำมันมะกอกไว้ในที่เย็นและมืด เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำมันมะกอกให้ยาวนานขึ้น ควรเก็บน้ำมันมะกอกไว้ในที่แห้งและเย็น พ้นจากความร้อนและแสงแดด และห่างจากเตาตลอดเวลา เพราะความร้อนอาจทำให้คุณภาพของน้ำมันมะกอกลดลงได้ คุณควรปิดฝาขวดให้แน่นทุกครั้งหลังการใช้งาน
Related CTN News:
Elden Ring วางขายพร้อมกับเกม PS Store อื่นๆ จนถึงวันที่ 18 มกราคม