Crime News
แม่ชีหลอกลวง! แม่ชีหลอกเหยื่อทำบุญสูญนับหมื่นล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมฝ่ายปกครองนำหมายจับศาลจังหวัดนครพนมเลขที่ก. ที่ 181/2564 ลงวันที่ 27 เม.ย. 2564 เพื่อจับกุมน. ส. อิสรีย์นามจันทร์หรือพญาธรรมิกราชอายุ 49 ปีซึ่งแอบอ้างตัวเป็นแม่ชี
หัวหน้าสำนักปฏิบัติธรรมพระพุทธสิกขีตั้งอยู่เลขที่ 210 หมู่ 1 บ้านดงโชคตำบลหนองญาติอำเภอเมืองจังหวัดนครพนม หลังผู้เสียหายชาวบ้านในพื้นที่อ. เมืองอ. ท่าอุเทนและอ. ปลาปากจ. นครพนมเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ 3 นาย ได้แก่ สภ. เมืองนครพนมสภ. ท่าอุเทนและสภ. คูตาไกรวมกว่า 400 ราย. 10 ล้านบาท
ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชนจัดตั้งกองทุนโดยอ้างว่าช่วย COVID จึงระดมทุนให้ผู้มีจิตศรัทธาซื้อผ้าป่าสะสมบุญกองละประมาณ 3,500 บาทโดยให้ผลตอบแทนสูงเช่นคืนกำไรด้วยรูปหล่อทองคำ 1 สลึง. ได้กำไรทองคำหนัก 1 สลึงทำจริงคนหลงเชื่อเหยื่อ ให้เงินมากขึ้นเพื่อซื้อกองทุนบางคนอยากได้ทองมาก ๆ ก็ลงทุนซื้อผ้าปูหลายสิบกอง ผ่านไปประมาณ 3 เดือนผลตอบแทนไม่เหมือนครั้งแรก จึงคิดว่าถูกเจ้าหน้าหลอกให้เสียเงินอย่างแน่นอนจึงชักชวนกันไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะเจ้าหน้าที่นำหมายจับพบพระภิกษุทราบชื่อเล่นว่าพระตื้อออกมาหน้า บช.น. โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่มาปฏิบัติธรรมเท่านั้นเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปสอบสวนที่สำนักพุทธจ. นครพนม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับภายใน พบน. ส. อิสรีย์หรือพญาธรรมิกราชในชุดพระสงฆ์ห่มผ้าเหลืองนั่งบนเก้าอี้ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ และเรียกสรรพนามตัวเองว่าอาตมาพร้อมอ้างตัวเองว่าเป็นอรหันต์ตอนแรกพูดเป็นภาษาอังกฤษจึงพูดไทยไม่ชัด และปรารภกับเจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้าดูการเจรจานานกว่า 10 นาทีจึงยอมให้จับกุมตัวได้โดยยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกงและไม่ทราบว่าหากผู้เสียหายต้องการเงินคืนก็บอกไปว่าไม่มีการคืนเงิน อย่างไรก็ตามตลอดเวลาที่พูดคุณอิสรีย์จะอ้างว่าเป็นพระอรหันต์ชั้นสูงที่มาโปรดชาวพุทธ เพื่อนำไปสู่หนทางแห่งสันติก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชนและขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณที่ทำการดังกล่าวมีเนื้อที่กว่า 7 ไร่มีการก่อสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมพระพุทธรูปหลายองค์รวมทั้งแม่ชีอีก 2 คนที่อยู่ในความดูแลของวัด แต่อ้างว่าไม่รู้และ ไม่เพียง แต่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางศาสนาซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนเพิ่มเติมในภายหลัง
พล. ต. ธนชาติรอดคลองตันผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าวันนี้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำหมายศาลจังหวัดนครพนมเพื่อจับกุมน. ส. อิสรีย์หรือพญาธรรมิกราชที่ตั้งตัวเป็นแม่ชี แต่ไม่ได้รับอนุญาต ตามข้อบังคับทางศาสนา และการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมเพื่อหาประโยชน์จากชาวบ้านโดยจัดตั้งกองทุนผ้าป่าเพื่อช่วยเหลือโควิด พร้อมมอบหมายให้สายบุญตระเวนช่วยเหลือเหยื่อตามอำเภอต่างๆ ร่วมทำบุญผ้าป่ากองละประมาณ 3,500 บาทและมีผลตอบแทนเป็นเงินสดสูง รวมทั้งทองคำและ แต่ตัวเลขที่ลงทุนในกองผ้าป่าในช่วงแรกนั้นเป็นการเชิญชวนให้เชื่อทำให้ชาวบ้านจำนวนมากขึ้นตกเป็นเหยื่อซื้อกองทุนผ้าป่าในที่สุดผลตอบแทนก็ไม่กลับคืนมา และไม่เป็นไปตามข้อตกลงทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อกว่า 400 รายรวมค่าเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท. และจะสอบสวนขยายผลในฐานความผิดอื่น ๆ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าจะมีบุคคลใดเกี่ยวข้องหรือไม่จะได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป แต่ในเบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นแม่ชีตามหมายจับ ที่ศาลจังหวัดนครพนม
แม่ชีอีกสองคนถูกจับด้วย ในการกระทำการหลอกลวงชาวบ้านเสร็จสิ้นแล้วและอยู่ระหว่างควบคุมตัวเพื่อสอบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้การบวชเป็นแม่ชีในประเทศไทยยังไม่เปิดกว้าง ผู้หญิงที่เสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนาในการเป็นพระภิกษุต้องเดินทางไปศรีลังกาสถานเดียว