กลุ่มโควิด “โรงงานลำไยเชียงราย” ติดเชื้อ 40 ราย

เชียงราย – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเชียงราย-พาน พบกลุ่มใหม่ “โรงงานลำไยเชียงราย” ติดเชื้อ “โควิด 19” 40 คน สั่งกักตัวครึ่งร้อยปิดโรงงาน ห้ามเข้าออกพร้อมกัน

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด 19” ในจังหวัดเชียงราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 40 ราย (แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อ 21 รายภายในจังหวัด และ 19 รายรับจากต่างจังหวัด) รวมผู้ป่วยสะสม 2,215 ราย รักษาหายแล้ว 1,732 ราย ยังรักษาอยู่ 456 ราย เสียชีวิตสะสม 24 ราย

ในส่วนของ อ.พาน ได้พบ “คลัสเตอร์ใหม่” ที่บริษัทรียูเนียน ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด หมู่ 8 ต.สันมะเค็ด อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งดำเนินกิจการด้านการแปรรูปลำไย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข อ.พาน ได้ทำการตรวจเชิงรุกภายในโรงงานพบผลบวก จำนวน 40 ราย และผลตรวจเป็นลบจำนวน 50 คน จึงสั่งให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันภายในโรงงาน 40 คน ส่วนอีก 10 คนให้กักตัวดูอาการที่บ้าน

นายกิตติ ชัยดรุณ นายอำเภอพาน ได้มีคำสั่ง ศปก.อ.พาน ที่ 07/2564 ให้เจ้าหน้าที่ควบคุม ติดตาม ดูแล ผู้ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสั่งให้กักกันตนเองที่โรงงานและที่พักอาศัยอย่างเข้มงวด และให้มีการตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรองและจุดเฝ้าระวัง ในพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณโรงงานและที่พัก กำหนดพื้นที่โรงงานเป็นพื้นที่ควบคุมเป็นเวลา 28 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2564 และให้ทีม ศปก.ต.สันมะเค็ด ทำการตั้งด่านเข้า-ออกโรงงาน ตลอด 24 ชั่วโมง

• “ก้อย อรัชพร” ทุ่มกว่า 20 ล้าน ถอยบ้านหลังใหม่ให้แม่

ในส่วนของการแพร่ระบาดพื้นที่หมู่บ้านรุ่งเจริญ หมู่ 11 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ยังคงเฝ้าระวัง หลังจากพบผู้ป่วยจำนวน 118 ราย ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ที่เอกชนขนส่งสินค้า อ.ป่าแดด พบผู้ป่วยเพิ่มเติมพื้นที่ อ.เทิง อ.เวียงแก่น อ.แม่สาย อ.เมืองเชียงราย รวมทั้งยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ อ.แม่สรวย

ส่วนกรณีตัวเลขผู้ติดเชื้อ “โควิด19” ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ประกาศและสถานการณ์จริงในแต่ละอำเภอไม่ตรงกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าเกิดจากช่วงแรกของการระบาดที่ได้ใช้การตรวจด้วยระบบ ATK ซึ่งเป็นผลของผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อเท่านั้น และต้องยืนยันด้วยการตรวจแบบ RT-PCR ดังนั้นระบบจึงยังไม่นับรวมเป็นผู้ป่วยโควิด เมื่อนำทั้งหมดไปตรวจแบบ RT-PCR จึงได้นำผู้รับการยืนยันเข้าในตัวเลขของจังหวัด ซึ่งผู้ที่ตรวจพบผลบวกแบบ ATK ยังคงจะได้รับการดูแลใน ศูนย์แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) และให้กักตัวดูอาการที่บ้าน (Home Isolation) โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลเช่นกัน