Chiang Rai News
ชาวนาเชียงรายเปลี่ยนนาเป็นศิลปะการ์ตูนแมว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ บ้านคอนสูง หมู่ที่ 4 ตำบลงิ้ว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีงานศิลปะสร้างสรรค์บนนาข้าว มีรูปแมวน่ารักมาก 3 รูป บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ นี่เป็นอีกผลงานที่จะจัดแสดงในงาน Thailand Biennale เชียงราย 2023 ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567
งานศิลปะบนนาข้าวจะเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2566 ถึงประมาณวันที่ 15 มีนาคม 2567 ถือเป็นผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่ควรใช้เป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์ผลงาน ผลงานที่ดีที่สุดในงานนี้ ถือเป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวที่รักงานศิลปะไม่ควรพลาด เพราะมันหายาก
นายธันพงศ์ ใจคำ หรือ ดิว ผู้จัดการหนุ่มโรงงานรถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์งานศิลปะบนนาข้าว กล่าวว่า เขาเกิดและเติบโตที่บ้านคนสูง ตำบลงิ้ว อำเภอเทิง ครอบครัวของเขาทำงานเป็นชาวนาที่ทำงานในนาข้าว เขามีความสัมพันธ์กับนาข้าวมาตั้งแต่เด็ก ฉันเข้าใจถึงคุณค่าของเมล็ดข้าวและสนใจการปลูกข้าวมาโดยตลอด และตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสศึกษาว่าศิลปะนาข้าวญี่ปุ่นมีที่มาอย่างไร หรือ “ศิลปะทันโบะ”
เมื่อฉันเห็นมันฉันคิดว่ามันแปลกมาก และถ้าฉันมีโอกาสฉันอยากจะลอง แต่ในญี่ปุ่นพวกเขาทำเช่นนี้มานานกว่า 10 ปีแล้วและสามารถพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีเฉดสีต่างๆ มากมาย และมีชื่อเสียงมากจนสามารถจัดเป็นเทศกาลประจำปีได้ มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางปีละหลายแสนคน
ผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์งานศิลปะบนนาข้าว กล่าวต่อว่า งานไทยของเรายังไม่พัฒนาไปถึงระดับนั้น แต่จากการที่ได้ท่องเที่ยวและศึกษามาหลายที่ในประเทศไทย พบว่ามีหลายจังหวัดที่ปลูกข้าวแบบนี้ แต่ต้นข้าวยังมีสีอยู่เล็กน้อย
ไม่เกิน 3 สี แต่ในปีนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้พัฒนาพันธุ์ข้าว โดยใช้ข้าวหอมนิลใบขาว นำมาผสมกับข้าวคำหอมนิล จนได้เป็นข้าวไพลิน สายพันธุ์ RB01, RB02, RB03, RB04 และ RB05 แต่ละสายพันธุ์มีเฉดสีต่างกัน และได้ริเริ่มรับสมัครเกษตรกรมาร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะบนนาข้าว ใช้ข้าวที่มหาวิทยาลัยจัดสรร
ด้วยตนมีความสนใจในด้านนี้อยู่แล้ว จึงขอยื่นสมัครไปในนามบุคคล ซึ่งจากการพิจารณาอย่างเข้มงวดของมหาวิทยาลัย สุดท้ายมีผู้ผ่านการคัดเลือกมาทั้งหมดประมาณ 15-16 ทีมทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่จะสมัครเป็นกลุ่มหรือองค์การการเกษตร รวมไปถึงนายกิตติ สิงหาปัด พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง ก็มีชื่อผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการในนามของ จ.ขอนแก่น สำหรับตนถือเป็นหนึ่งใน 3 ของพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ และตนเข้าร่วมโครงการในนามตัวแทน จ.เชียงราย
นายธันย์พงค์ กล่าวอีกว่า แต่หลังจากได้เมล็ดพันธุ์มาแล้ว ก็มีอีกหลายปัญหาต้องมาขบคิด เพราะยังไม่เคยทำมาก่อน ประกอบกับเมล็ดพันธุ์ที่มหาวิทยาลัยให้มามีจำนวนจำกัด ตนจึงเข้าไปขอคำปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรอำเภอ ธนาคาร หรือหน่วยงานในระดับจังหวัด เพื่อขอความรู้และต้องการให้หน่วยงานมาร่วมสนับสนุนโครงการ แต่ปรากฏว่าไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยสนับสนุน อาจจะเป็นเพราะเป็นเรื่องใหม่ และยังไม่เห็นรูปร่างโครงการ จึงตัดสินใจลงมือทำด้วยตนเอง โดยเรื่องเมล็ดพันธุ์ได้ปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แนะนำว่าควรเพาะพันธุ์ทีละเมล็ด จากนั้นในเรื่องการออกแบบรูปภาพบนนาข้าว
“ด้วยความที่ตนไม่มีความรู้เรื่องศิลปะเลย แต่คิดว่าใน จ.เชียงราย เป็นเมืองศิลปะ มีศิลปินดังๆ อยู่มากมาย ตนจึงเดินทางไปที่วัดร่องขุ่น เพื่อตั้งใจจะไปขอคำปรึกษาจาก อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เพราะตอนนั้นไม่รู้จักใครเลย แต่เจ้าหน้าที่ของวัดแนะนำว่าควรจะไปที่สมาคมขัวศิลปะ ตนก็ไปตามคำแนะนำ ซึ่งทางสมาคมขัวศิลปะได้ฟังแนวคิดแล้วเกิดสนใจ โดยเสนอว่าควรจะเข้าร่วมโชว์ในงานไทยแลนด์เบียนนาเล่ 2023 ที่กำลังจะจัดขึ้นอีกด้วย และได้ส่งศิลปินเข้ามาหาในภายหลัง เพื่อเสนอแนวคิดการออกแบบรูปภาพร่วมกัน ซึ่งศิลปินที่มาออกแบบให้เขาชอบเลี้ยงแมว ก็เลยอยากออกแบบเป็นภาพแมว ตนก็เห็นดีด้วย ก็เลยออกแบบเป็นภาพแมว 3 รูป” ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนนาข้าว กล่าว
นายธันพงศ์ กล่าวถึงขั้นตอนการร่างแบบและการปลูกข้าว พอได้ภาพแล้ว ส่วนขั้นตอนการนำภาพที่ออกแบบไปลงนาข้าวก็ถือเป็นงานที่ยากอีกประการหนึ่ง ขั้นตอนนี้ต้องขอความร่วมมือช่างกรมชลประทานจังหวัดพิษณุโลกช่วยจับพิกัด GPS เพื่อวางเสาและยืดเชือก รวมกว่า 3,000 คะแนนเพื่อสร้างภาพ
เครื่องมือจะต้องยืมจากกรมที่ดิน และในกระบวนการปลูกได้ภรรยา ลูก ญาติ คนจากวัฒนธรรมจังหวัด ตลอดจนศิลปินที่มาช่วยกันปลูกเริ่มวันที่ 15 ตุลาคม ใช้เวลาปลูกประมาณ 10 วัน โดยเรียงลำดับการปลูกตามอายุของข้าวแต่ละพันธุ์
เพื่อให้ตั้งครรภ์ได้ทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน และใช้ข้าวเหนียว IRRI และข้าวเหนียวสันป่าตอง 1 ปลูกในพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้มีข้าวถึง 7 เฉดสีในนาข้าวของตน คาดว่าข้าวจะเริ่มเปลี่ยนสีในอีกประมาณ 2 สัปดาห์ และจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 และวันที่ 31 ธันวาคม 66 นอกจากนี้ก็จะมีกิจกรรมนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าด้วย และต้อนรับปีใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว
“สิ่งที่ตนมุ่งหวังจากโครงการปลูกข้าวสรรพสีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ก็คืออยากติดเป็น 1 ใน 5 อันดับแรก เพราะจะได้ร่วมทำ MOU กับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งตนมีความมั่นใจว่าจะสามารถติดอันดับอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากได้รับเลือก ในพื้นที่ตรงจุดนี้ตนก็อยากจะให้เป็นศูนย์เรียนรู้ในเรื่องการปลูกข้าวสรรพสี หรือการสร้างสรรค์ศิลปะบนนาข้าว และผลพวงนอกจากนั้นก็จะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ ผู้ที่สนใจอยากมาเที่ยวชมสามารถเข้ามาที่บ้านขอนซุง ม.4 ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย” นายธันยพงค์ กล่าว
“Tanbo Art” หรือที่เรียกว่า “ศิลปะบนนาข้าว” คือ การวาดภาพโดยการใช้นาข้าวแทนผืนผ้าหรือกระดาษ ใช้พันธุ์ข้าวแต่ละชนิดแทนสีต่างๆ และมีชาวนาจากแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ เป็นพู่กัน ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวเพื่อสรรค์สร้างผลงาน จุดเริ่มต้นของ Tanbo Art เริ่มมาจากหมู่บ้านอินาคะดาเตะ ใน จ.อาโอโมริ โดยเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหมู่บ้านแห่งการเกษตรกรรมที่สามารถผลิตข้าวที่มีคุณภาพสูงแห่งหนึ่งของประเทศ โดยการจัดงานนั้นมีมาตั้งแต่ปี 1993 นับเป็นงานเทศกาลที่เก่าแก่อีกงานหนึ่ง
ความเป็นมาของเทศกาล Tanbo Art สืบเนื่องจากเมื่อปี ค.ศ. 1993 ช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย ชาวนาของ จ.อาโอโมริ ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำเช่นกัน ดังนั้นเหล่าชาวนาจึงได้พยายามคิดหาวิธีที่จะฟื้นฟูวิกฤติดังกล่าวขึ้นมา จนได้ข้อสรุปว่าควรจะมีการทำกิจกรรมที่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจ ความมีชีวิตชีวาและสีสันให้กับชุมชน ประจวบเหมาะกับที่มีนักโบราณคดีได้สำรวจพบว่าพื้นที่หมู่บ้านอินาคะดาเตะนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวมายาวนานกว่า 2,000 ปีแล้ว ดังนั้นชาวนาในหมู่บ้านจึงมีความคิดที่จะสร้างศิลปะบนนาข้าวขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ประวัติศาสตร์เก่าแก่นี้
ชาวนาหมู่บ้านอินาคะดาเตะ ได้นำข้าวสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีทั้งสีเขียว เหลือง ม่วง แดง ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่อดีตมาริเริ่มสร้างเป็นศิลปะประเภทจิตรกรรมบนผืนนากว้างใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเพื่อให้สามารถรับชมรูปภาพขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์จึงได้มีการสร้างป้อมจำลองที่มีลักษณะเป็นหอสูง 22 เมตรขึ้นที่สำนักงานหมู่บ้าน และในปี 2006 ได้มีการบันทึกสถิติผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมหมู่บ้านมากถึง 200,000 คน ปัจจุบันได้มีการขยายการจัดงานไปอีกในหลายพื้นที่ ได้แก่ หมู่บ้านอินาคะดาเตะ จ.อาโอโมริ, เมืองอาซาฮิคาวะ จ.ฮอกไกโด, และเมืองโยเนะซะวะ จ.ยามากาตะ.- Thairath