News
สลดใจ! ทารกน้อยถูกแม่ใจยักษ์ทิ้งริมสระน้ำ ตัวเงินตัวทองรุมแทะร่างพรุน
11 พฤษภาคม 2563 พ.ต.ต.จิตตกรณ์ คงเหลือ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุพบซากศพเด็กทารกถูกยัดถุงดำนำมาโยนทิ้งพงหญ้าริมสระน้ำภายในสวนหย่อม หน้ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ หมู่ 10 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา,พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน),พ.ต.ต.วรรณชัย คชายนต์ สวป.,และตำรวจสืบสวน,แพทย์โรงพยาบาลท่าศาลา และอาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจท่าศาลา เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันสอบสวนและชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุพบศพเด็กทารกเพศชายวัยแรกเกิดอายุ 1 – 2 วัน สภาพส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณ ถูกยัดใส่ถุงดำขนาดใหญ่ และพบร่องรอยถูกดำแตกฉีดขาดหลายจุด ศพเด็กทารกมีบาดแผลหน้าท้องไส้ทะลักกองออกมาด้านนอก คาดว่าถูกสัตว์กัดแทะจนไส้ทะลัก และตามลำตัว ทวารหนักมีร่องรอยบาดแผลถูกสัตว์กัดแทะเป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานใดๆ
จากการสอบสวนปากคำ ด.ช.(เอ) นามสมมุติ อายุ 10 ปี คนพบศพทารกคนแรก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุชักชวนเพื่อนๆมาเที่ยวเล่นริมสระน้ำ เนื่องจากช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอมยาว เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ปรากฏว่าขณะเดินมาที่พงหญ้าริมสระน้ำ ได้กลิ่นเหม็นและพบว่ามีถุงดำวางอยู่ริมสระน้ำ สภาพถุงแตกฉีกขาดหลายจุด ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปดู เมื่อเปิดถุงออกดูพบร่างศพเด็กทารก สภาพถูกสัตว์กัดแทะจนไส้ทะลักและลำตัวถูกกัดแทะพรุนทั่วร่าง ด้วยความตกใจ จึงแจ้ง รปภ.มหาวิทยาลัย ที่ป้อมทางเข้ามหาวิทยาลัย ต่อมา รปภ.แจ้งตำรวจพร้อมแพทย์เวร เดินทางมาชันสูตรพลิกศพ ก่อนจะนำศพไปชันสูตรอย่างละเอียดทีโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของทารกในครั้งนี้
พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่า สอบสวนเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเด็กทารกที่เสียชีวิตเป็นฝีมือใครนำมาทิ้ง ได้สั่งการตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบตามสถานพยาบาลต่างๆว่าใครมาทำคลอดช่วงนี้หรือไม่ เพื่อติดตามตัวแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินตามกฎหมาย สันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะเป็นหญิงในพื้นที่บางแห่งไปทำแท้งแล้วนำซากทารกมาโยนทิ้งบริเวณดังกล่าว ล่าสุดส่งซากศพทารกให้นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต ว่าทารกเสียชีวิตก่อนถูกนำมาทิ้งหรือนำมาทิ้งแล้วเสียชีวิต
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นสวนสาธารณะริมสระน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่หลายสิบไร่ ตั้งอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่ทางมหาวิทยาลัยฯ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สถานที่ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจ ส่วนจุดที่พบซากศพทารก อยู่ริมน้ำห่างจากสระน้ำประมาณ 1 เมตร อยู่ใกล้ศาลาริมน้ำ และอยู่ห่างจากป้อมรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยฯ ประมาณ 200 เมตร ตรวจสอบรอบบริเวณที่พบซากศพทารกไม่พบสิ่งผิดปกติ อย่างไรก็ตามใกล้จุดพบซากศพทารก บริเวณสวนหย่อมพบว่ามีความผิดปกติบางอย่าง โดยต้นไม้ดอกไม้ประดับและต้นหญ้า มีสภาพล้มเป็นแนวราบกับเป็นพื้นกินรัศมีวงกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร คาดว่าแม่ใจยักษ์ตั้งใจโยนซากศพทารกบรรจุถุงดำลงในสระน้ำ แต่ซากศพทารกเกิดตกลงบริเวณพงหญ้าสวนหย่อมริมสระน้ำดังกล่าว
นายณัฐวุฒิ ภัควันสกุล เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิประชาร่วมใจท่าศาลา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก รปภ.มหาวิทยาลัย ว่าพบซากศพทารกถูกนมทิ้งไว้ริมสระน้ำ บริเวณสวนสาธารณะริมน้ำ ภายในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากศพทารกอยู่ประมาณ 1-2 วัน สภาพทารกผิวขาว มีอวัยวะสมบูรณ์ บริเวณท้องสายสะดือยังติดอยู่ บรรจุในถุงขยะสีดำ มีผ้าขนหนูสีชมพูเปื้อนเลือดห่อซากทารกอีกชั้น คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 -2 วัน ส่วนบริเวณหน้าท้องและสะโพกของซากศพทารกมีบาดแผลลักษณะผิวหนังหลุดร่อนเป็นวงกว้าง คล้ายเป็นร่องรอยถูกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ เช่น ตัวเงินตัวทอง กัดแทะ หวังกินเป็นอาหาร คาดว่าตัวเงินตัวทอง คลานขึ้นจากสระน้ำ แล้วได้กลิ่นซากศพทารกในถุงดำ ก่อนจะกัดแท็กและพยามจะลากซากทารกที่อยู่ในถุงดำลงในสระน้ำหวังกินเป็นอาหาร แต่อาจจะมีคนมาพบ ตัวเงินตัวทองตกใจกลัว จึงคลานหนีลงน้ำ ซึ่งสระน้ำดังกล่าวมีตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่อาศัยอยู่จำนวนมาก อย่างไรก็ตามซากศพทารกเริ่มส่งกลิ่นเหม็นและเริ่มขึ้นอืด หลังแพทย์ชันสูตรพลิกศพ ได้ส่งซากศพทารกผ่าชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตให้แน่ชัดอีกครั้ง ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสลดที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในพื้นที่ อ.ท่าศาลา – อ่านข่าวเพิ่มเติม
รวบหนุ่ม วัย 44 ปี หนีหมายจับ ‘ร่วมกันพยายามฆ่าฯ’ เกือบ 20 ปี