เทคนิคเดินหน้าการตลาดออนไลน์ กลยุทธ์พิชิตใจลูกค้าทุกสถานการณ์

ต้องยอมรับกันจริง ๆ เลยว่า ปัจจุบันโลกการตลาดออนไลน์มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคและอุปโภคทุกคนในการซื้อขายสินค้า ทั้งง่ายและสะดวก มีความถูกต้องแม่นยำ ปลอดภัยต่อทรัพย์สินสูง

ยิ่งเมื่อมีกระแสไวรัส Covid-19 เข้ามา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป ผู้ค้ารายย่อยหลายคนได้รับผลกระทบ หลายธุรกิจสู้ไม่ไหวจึงได้ปิดตัวลง สาเหตุที่เป็นอย่างนี้ นั่นเพราะว่าหลายคนยังไม่รู้จักการตลาดออนไลน์ดีพอ และไม่รู้จักการใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์อย่างเป็นระบบ

ระบบช่องทางการตลาดคืออะไร ทำไมต้องรู้

วลีเด็ดจาก Lee Bolman ได้เคยกล่าวไว้ว่า “A vision without a strategy remains an illusion.” มีความหมายว่า “วิสัยทัศน์ที่ไร้ กลยุทธ์คือภาพลวงตา” นี่จะสื่อว่า หากคุณมีฝันที่สวยหรู และจินตนาการกว้างไกลสักเพียงใด แต่ถ้าขาดกลยุทธ์ที่ดี มันก็เป็นเพียงแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้น

กลยุทธ์คือตัวเชื่อม คือเทคนิคที่จะนำพาคุณประสบความสำเร็จในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้คุณเปิดวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้น เข้าใจ และรู้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหลังจากได้ลงมือทำ

คนส่วนใหญ่มองการตลาดเป็นเรื่องง่าย และตัดสินใจเองว่าการทำตามแบบวิธีที่ตัวเองเข้าใจนั้นถูกต้อง เช่น หลายคนเข้าใจว่าแค่มีเพจใน Facebook ก็สามารถทำการตลาดออนไลน์ได้แล้ว ซึ่งมันคือการตลาดออนไลน์ช่องทางเดียวเท่านั้น ความจริงแล้วยังมีอีกหลายช่องทางให้ได้เรียนรู้และทดลอง บางคนอาจจะเลือกช่องทางเดียวสำหรับธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จ และพอใจในกำไรของตน แต่หากรู้ระบบและเรียนรู้การตลาดออนไลน์อีกหลายช่องทางแล้ว จะทำให้ธุรกิจดียิ่งขึ้น และก้าวหน้าไปอีกขั้น เพราะเราจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าธุรกิจของเราเหมาะกับการตลาดแบบไหน และช่องทางไหนจะเติบโตได้มากกว่า

ครบสูตรของหลักการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing)

ต่อไปนี้คือเทคนิคที่เรียกว่าเป็นระบบของการตลาดออนไลน์ที่ครบครัน เป็นช่องทางที่มีกลยุทธ์การตลาด ที่นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการควรรู้เอาไว้ เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา และสร้างช่องทางให้ธุรกิจของตนเป็นที่รู้จักมากขึ้น

1. Social Media Marketing

แน่นอนล่ะว่าการทำตลาดในช่องทางนี้ ทุกคนย่อมรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งสื่อโซเชียลมีเดียที่นิยมกันโดยปกติคือ Facebook , Instagram , Line , Twitter และ Pinterest ข้อดีของช่องทางนี้คือ แทบไม่ต้องใช้ทุนเลย หรือใช้ทุนน้อยมาก เพราะไม่ต้องใช้ความรู้ ทักษะอะไร ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญ ใครที่เป็นพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถที่จะเริ่มต้นที่ช่องทางนี้ได้อย่างสบาย แค่เพียงลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับทางสื่อนั้นก่อน

แต่ทุกธุรกิจควรจะมีช่องทาง Social Media ไว้ เพราะเหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์ โปรโมทโปรดักชั่นของธุรกิจให้คนมารู้จัก และส่งผ่านไปยังเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลอื่นอีกทอดได้

2. Google Ads / SEM

ช่องทางการตลาดนี้จะได้เปรียบและดีกว่าสื่อโซเซียลก็คือ เจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง เหมือนลูกค้าจะเข้ามาหาเราเองจาก “Keyword” เป็นการทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ Google หรือการทำตลาดแบบ SEM (Search Engine Marketing) นี่คือระบบที่จะมีความเสถียรและแม่นยำกว่า Facebook หรือสื่อโซเชียลมีเดียแน่นอน เพราะว่าหากเป็นธุรกิจค่อนข้างใหญ่ เช่น ร้านอาหาร โรงงานขนาดใหญ่ เครื่องจักร รถยนต์ กลุ่มลูกค้าจะค้นหาสินค้าผ่าน Google มากกว่า เพราะกว้าง รวดเร็ว แต่ถ้าจะให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แนะนำว่าให้ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับธุรกิจโดยตรงไปเลย เพราะจะสามารถทำอะไรได้มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาหารอย่างร้านอาหารใหญ่ ๆ ก็จะมีเว็บไซต์หน้าร้านเป็นของตัวเองโดยเฉพาะเลย หรือการโฆษณาโปรโมทการท่องเที่ยว อาหารที่เกี่ยวกับประเทศไทย โดยเฉพาะให้กับชาวต่างชาติ อย่าง Siampicture.com ที่ภายในเว็บนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อและยิงกลุ่มเป้าหมายไปที่ชาวต่างชาติ ที่ไม่รู้ภาษาไทยได้โดยตรง

3. การตกแต่งหน้าเว็บไซต์ก็สำคัญ

ยุทธศาสตร์การยิงเป้าหมายกลุ่มลูกค้า นอกจากจะสร้างเว็บไซต์เกี่ยวกับธุรกิจของตัวเองโดยเฉพาะแล้ว การปรับแต่งหน้าเว็บให้เป็นที่ชื่นชอบ หรือทำตามเกณฑ์ที่ Google กำหนดไว้ ซึ่งหากทำได้ดี ก็จะถูกจัดวางไว้ในอันดับต้น ๆ ของการค้นหาใน Keyword ได้เลย เจ้าของเว็บจะต้องมีทักษะการสร้างเว็บไซต์ที่สวยงาม มีข้อมูลธุรกิจครบถ้วน มีความแปลกใหม่ น่าสนใจ ดึงดูด และรู้ว่า Keyword ไหนจะทำการตลาดมากที่สุด และเชี่ยวชาญในการทำ SEO โดยตรง

4. เพิ่ม Content Video Marketing

ยุคนี้ไม่ใช่แค่ภาพนิ่งที่จะนำมาเสนอโปรดักชั่นแล้ว แต่มันคือยุคของ Video Content ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น Youtube ที่มียอดผู้ชมและผู้อัพโหลดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเสพภาพเคลื่อนไหว มันให้ความรู้สึกที่สัมผัสได้มากกว่า เพราะฉะนั้น หากต้องการขายโฆษณาหรือสินค้าของตัวเอง จะต้องรู้จักแบรนด์ของตัวเองเป็นอย่างดี และถ่ายทอดเรื่องราว คุณสมบัติของสินค้า และมันจะตอบโจทย์อย่างไรให้แก่ลูกค้าบ้าง ผ่านทาง Video Content นี่แหล่ะ

5. จ้างผู้พรีเซ้นต์ (Influencer Marketing)

กลยุทธ์ทางการตลาดอีกอย่างหนึ่ง ที่น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับดี กับการจ้างนักแสดงหรือดาราดัง บุคคลในสังคมที่โด่งดังมีชื่อเสียง และน่าเชื่อถือ มาช่วยการันตี โฆษณาสินค้า ว่ามีข้อดีอย่างไร ทำไมถึงต้องลงทุนซื้อ เพราะปัจจุบันลูกค้ามักจะหารีวิวสินค้า หรือหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อเสมอ ยิ่งเป็นบุคคลที่ตัวเองชื่นชอบ หรือเป็นกระแสมาทำการโปรโมทให้ ยิ่งจะทำให้แบรนด์ดูน่าสนใจขึ้นมากกว่าเดิมด้วย

สิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ต้องการทำการตลาดในช่องทางนี้ นอกจากบุคคลที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังต้องเลือกบุคคลที่มีลักษณะหรือบุคลิกที่เหมาะสมกับแบรนด์ด้วย และเรื่องราวที่ถ่ายทอดต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ด้วยอีกที ความสัมพันธ์กันนี้จะเชื่อมโยง เจาะกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนกว่า

3 เสาหลัก ที่จะทำให้ธุรกิจโลดแล่นนำคู่แข่ง

เคยสงสัยมั้ยว่า สินค้าเหมือนกัน คุณสมบัติการใช้งานเดียวกัน แต่ทำไมอีกธุรกิจหนึ่งถึงทำยอดกำไรได้สูงกว่า บางธุรกิจทุนหนาสามารถปูทางการตลาดธุรกิจไปได้ยาว แต่สินค้ากลับมียอดต่ำลง ทีนี้มาดูกันว่า สิ่งสำคัญที่เป็นเสาหลักของการทำตลาดออนไลน์นั้น คืออะไรบ้าง

1. คุณภาพต้องดีกว่า และมีความแตกต่างชัดเจน

นั่นคือความจริงใจ และซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เราจะต้องแน่ใจและผลิตสินค้าที่ดีและมีคุณภาพอย่างแท้จริง เพื่อส่งต่อถึงมือลูกค้า เพราะหากการตลาดดีแค่ไหน สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ลูกค้าก็จะอุดหนุนสินค้าได้เพียงครั้งแรกเท่านั้น จะไม่มีการซื้อซ้ำครั้งที่สองอีก เราต้องมองมุมกลับว่า หากเราเป็นลูกค้า เราจะสะดุดตากับสินค้าของเราหรือไม่ และอยากซื้อหรือไม่

2. แบรนด์มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเจอกันบ่อย คือการมุ่งแต่เสนอคุณสมบัติของสินค้า จนเหมือนกันหมด ไม่มีความแตกต่าง ขาด Brand Story ในการนำเสนอ ไม่มีคอนเซ็ปท์ที่จะแยกลูกค้าออกจากคู่แข่งได้ ฉะนั้น จะต้องนำเสนอเรื่องราวของสินค้าให้เป็นที่จดจำ มีจุดเด่น มีความเป็นมาที่จุดฉนวนความต้องการของลูกค้า

3. Content ต้องเริ่ด

ส่วนมากสินค้าจะขายได้ ก็เพราะมีคอนเท้นท์ดีนี่แหล่ะ นำเสนอจุดเด่นออกมาให้มีความเหนือกว่าคู่แข่ง การเปรียบเปรย การใช้สำนวนในการพูดชักจูง ให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของเราตอบโจทย์ได้ดีกว่า และยิงโฆษณาได้แม่น เข้าหาได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

ธุรกิจจะเติบโตไปได้ไกล ไม่ใช่มีเพียงแค่เงินทุนเท่านั้น สำคัญคือกลยุทธ์และรู้จักระบบการตลาดออนไลน์ เพราะนั่นจะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และขยายพื้นที่ทางธุรกิจเป็นวงกว้างได้มากเท่าตัว ในเวลาสั้น ๆ และข้อสุดท้าย ธุรกิจใดจะเฉิดฉายอยู่บนดวงดาวได้นั้น จำเป็นอย่างมากที่จะขาดผู้นำที่ดีไม่ได้