Health
น้ำโซดาผสมกับเกลือสามารถรักษาอาการท้องเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท้องเสีย
ยกมือขึ้นหากคุณเชื่อว่าเมื่อมีอาการท้องเสียควรดื่มน้ำอัดลมผสมเกลือ เชื่อว่าหลายบ้านน่าจะมีมุมมองนี้ และน่าจะเคยดื่มกันมาบ้าง แต่ช้าก่อน อย. แนะนำว่าช่วยไม่ได้
องค์การอาหารและยาหรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้แสดงให้เห็นว่าความเชื่อผิดๆ ไม่แนะนำให้ดื่มน้ำอัดลมที่มีรสเค็ม
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ำอัดลมมีน้ำตาลมากกว่าน้ำแร่ นอกจากนี้ การกินก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย หรือท้องเสียรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ องค์การอาหารและยายังแนะนำว่าหากมีอาการท้องเสียร่วมด้วย อีกวิธีหนึ่งในการรักษาภาวะขาดน้ำที่เกี่ยวข้องกับอาการท้องร่วงคือการดื่มเกลือแร่ (ORS) ในช่องปาก นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอ งดอาหารรสจัด หรือเผ็ดจัด
หากมีอาการคลื่นไส้รุนแรง มีเสมหะในอุจจาระ มีกลิ่นเหม็น หรือมีอุณหภูมิมากกว่า 38.5 องศา ควรปรึกษาแพทย์ทันที
สรุปได้ว่าการดื่มน้ำอัดลมคู่กับเกลือจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ ไม่เป็นความจริงและอาจทำให้อาการแย่ลงได้
อาการท้องเสีย
อาการของโรคที่พบได้บ่อย จะมีการถ่ายอุจจาระเหลว ถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป ถ่ายบ่อยกว่าปกติของแต่ละคน หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 24 ชั่วโมง ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว และมีไข้
ถึงแม้ท้องเสียมักจะเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่อาจสร้างความทรมานให้แก่ผู้ป่วยและเป็นเรื้อรังจนก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้
- เกิดภาวะขาดน้ำหรือมีอาการท้องเสียมากกว่า 2 วัน สำหรับเด็กเล็กหรือทารกหากมีอาการเกิน 1 วัน ควรรีบพาไปพบแพทย์ เนื่องจากเสี่ยงกับการเสียชีวิตจากภาวะขาดน้ำ
- มีอาการปวดอย่างรุนแรงในช่องท้องหรือทวารหนัก
- ไข้ขึ้นสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส
- ถ่ายอุจจาระมีเลือดหรืออุจจาระเป็นสีดำ
สาเหตุของท้องเสีย
โดยปกติลำไส้จะดูดซึมสารอาหารในรูปแบบของเหลวจากสิ่งที่รับประทานเข้าไปในร่างกายจนเหลือแต่กากใยทิ้งไว้ แต่เมื่อเกิดอาการท้องเสียขึ้น ทำให้ลำไส้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ สารอาหารเหล่านั้นจึงไม่ถูกดูดซึมและถูกขับออกมาจากร่างกาย
การถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นมูกเลือดนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แบ่งออกเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง ดังนี้
ท้องเสียแบบเฉียบพลัน
อาการท้องเสียแบบเฉียบพลับมักเกิดจากโรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ เนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือเชื้อปรสิต ดังนี้
- การติดเชื้อแบคทีเรีย
เชื้อแบคทีเรียที่มักปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร และก่อให้เกิดอาการท้องเสียตามมา ได้แก่ เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ เชื้อซาลโมเนลลา เชื้อชิเกลลา และเชื้ออีโคไล - การติดเชื้อไวรัส
มีไวรัสหลายชนิดที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย เช่น โรต้าไวรัส โนโรไวรัส ไซโตเมกาโลไวรัส เฮอร์พีส์ซิมเพล็กซ์ไวรัส ไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น โดยโรต้าไวรัสเป็นสาเหตุของการเกิดอาการท้องเสียในเด็กมากที่สุด ซึ่งสามารถหายได้ภายใน 3-7 วัน แต่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการย่อยและดูดซึมแล็กโทสที่พบในน้ำนมได้ - การได้รับเชื้อปรสิต
เชื้อปรสิตสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน และอาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของคนเรา เชื้อปรสิตที่มักพบ คือ เชื้อไกอาเดีย เชื้อแอนตามีบาฮิสโตลิติกาหรือเชื้อบิดอะมีบา และเชื้อคริปโตสปอริเดียม
นอกจากนี้ อาการท้องเสียที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันอาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น อาการวิตกกังวล การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินไป การแพ้อาหารบางชนิด ไส้ติ่งอักเสบ หรือเยื่อบุลำไส้เสียหายจากการฉายรังสี เป็นต้น
Related CTN News: