เต้นสู้ป้องกัน ‘โควิด-19’ ดีกว่าเสพแต่ข่าวดราม่า จะบ้าประสาทกินก่อน?

ลีลาเด็ดดวงไปเลย.. เต้นสู้ป้องกัน “โควิด-19” ดีกว่าเสพแต่ข่าวดราม่า จะบ้าประสาทกินก่อน?

การติดตามข่าวสารการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า โรคโควิด-19 หรือ COVID-19 ทำให้หลายคนวิตกกังวล จนบางทีทำอะไรไม่ถูกว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร แต่จริงๆ บางอย่างตระหนักรู้และป้องกันได้ โดยไม่ต้องเครียดจนเกินไป

“ครูวุฒิ” วรวุฒิ หลักชัย ครูโรงรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า เทศบาลนครอุดรธานี และผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องฮักมั่น ทำมิวสิควีดีโอ สู้โคโรน่า COVID-19 บอกว่า เริ่มต้นจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โรคโควิด 19 ในฐานะที่เป็นครูคนหนึ่ง มีความคิดว่าจะให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กับเด็กนักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง และคนในชุมชนได้อย่างไร จึงคิดทำเพลงขึ้น และคิดว่าทำเพลงอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องทำมิวสิควิดีโอด้วย เพื่อให้สื่อชิ้นนี้ มีความน่าสนใจมากขึ้น

โดยได้เริ่มศึกษาความรู้ด้านการดูแลตัวเอง จากเว็บไซต์ของคณะแพทย์ ม.ขอนแก่น ซึ่งได้สรุปความรู้ไว้อย่างเข้าใจง่าย และจากสื่ออื่นๆร่วมด้วย จากนั้นก็ขอให้ครูที่โรงเรียนที่มีความสามารถด้านการแต่งเพลงเรียบเรียงเป็นเนื้อร้องขึ้นมา และได้รับความอนุเคราะห์จากอาจารย์นักทำเพลง “สังวาล ศาลางาม” ได้ให้ดนตรีมาฟรีๆ

“ปกติผมไม่เคยร้องเพลงเลย และไม่ชอบร้องเพลงด้วย เพราะร้องไม่เคยถูกคีย์ แต่ครั้งนี้ไม่รู้เป็นไร อยู่ดีๆ ก็อยากเป็นนักร้อง อยากร้องเพลงนี้เอง (หัวเราะ) เลยฝึกร้องอยู่ 3-4 วันก็เข้าห้องอัดเลย.. พอได้เพลงมา จากนั้นผมก็ไปขอให้เพื่อนครู ที่สอนนาฎศิลป์ช่วยออกแบบท่าเต้นให้ และก็ให้เด็กที่ชอบเต้นมาฝึกเต้นประกอบเพลง โดยท่าเต้นเน้นเป็นท่าออกกำลังกาย เพราะอยากให้ทุกคนที่ฟังเพลงนี้แล้ว เกิดแรงบันดาลใจในการดูแลป้องกันตัวเอง และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จะได้ปลอดภัยจากโรคภัยไขเจ็บครับ ”

ส่วนขั้นตอนการทำเอมวี ก็ทำกันง่ายๆ กับเด็กนักเรียน และคนในชุมชน บางฉากตั้งกล้องเล่นเองคนเดียว คนที่ผ่านไปมาในชุมชนเห็น เขาก็หัวเราะและก็มาช่วยด้วย และก็มีเอาไปเปิดในชุมชนให้ชาวบ้านเต้นทุกคนก็เต้นเข้าจังหวะกันสนุกสนาน

ในการสร้างสรรค์เพลงและเอมวีเพลงสู้โคโรน่า (covid-19) ขึ้นมา ก็เพื่ออยากให้ทุกคนได้รู้และตระหนักถึงการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

“โรคโควิด-19 นั้น เราจะกลัวอยางเดียวไม่ได้ เราต้องสู้ด้วย …และการต่อสู้และป้องกันโรคที่ประหยัดที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การดูแลตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทำร่างกายให้แข็งแรง แค่นี้ เราก็จะสามารถเอาชนะโรคร้ายได้อีกทางหนึ่งครับ..” ครูวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย – ข่าวกรุงเทพฯ