region,ข่าวไทย, เชียงรายนิวส์,
หมิว สิริลภัส เปิดใจทั้งน้ำตา หลังถูกตำรวจแอบถ่ายในห้องน้ำ
หมิว สิริลภัส เปิดใจทั้งน้ำตา ถามหาความปลอดภัยในฐานะประชาชนคนหนึ่ง หลังถูกตำรวจแอบตามเข้าห้องน้ำ เหมือนโดนคุกคามทางเพศ ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นพ่อแม่จะอยู่ยังไง
สืบเนื่องจากกรณีของนักแสดงสาวชื่อดัง หมิว สิริลภัส กองตระการ ที่ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยหลังตัวเองถูกชายคนหนึ่งแอบถ่ายในห้องน้ำในบริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง (ย่านรัชดา 36) ก่อนที่เจ้าตัวไหวตัวทันแล้วติดตามชายคนดังกล่าวออกมา พบว่าชายผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนำซ้ำชายผู้ก่อเหตุเองยังได้ พยายามจะหลบหนีขึ้นรถที่มีลักษณะคล้ายรถตำรวจ เป็นสีเงินคาดแถบแดงเลือดหมู มีสติ๊กเกอร์ภาษาอังกฤษหน้ารถว่า “POLICE”
ซึ่งต่อมาทางตำรวจยืนยันว่าทราบตัวชายคนดังกล่าวแล้ว พบเป็นตำรวจยศ ส.ต.ท. ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฎิเสธ แต่มีการนำโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากทำผิดจริงอาจมีโทษถึงไล่ออกจากราชการนั้น อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นประมาณวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.30 โดยทาง “หมิว สิริลภัส” เองก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาเช่นกัน
ล่าสุดวันนี้ (22 มีนาคม 2564) ทาง “หมิว สิริลภัส” ได้นำเอกสารเป็นบิลบอร์ดจำนวน 3 แผ่น พร้อมรูปภาพ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าตัวได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เจอในวันนั้นประมาณว่าช่วงดึกของวันที่ 6 มีนาคม ส่วนตัวได้เดินทางไปทำธุระย่านลาดพร้าว และคุยงานต่อย่านรัชดา แต่บังเอิญแวะเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แล้วเจอเหตุการณ์ตามที่โพสต์ไป โดยความรู้สึกที่ทำให้ตนเองมั่นใจว่าพฤติกรรมของตำรวจรายดังกล่าวนั้นส่อเจตนาว่าเป็นการคุกคามทางเพศ เนื่องจากจังหวะที่ตนเองเข้าห้องน้ำ เเล้วมีความรู้สึกว่ามีคนเดินตามมาเข้าห้องน้ำห้องข้างๆ โดยที่ไม่ได้มีการล็อกประตู ตนเองเลยไม่กล้าทำธุระ (ปัสสาวะ)
เนื่องจากระเเวงเลยทำการยืนบนโถส้วมเพื่อสังเกตการณ์ห้องข้างๆ มีจุดประสงค์อะไร โดยที่มือของตนข้างหนึ่งถือมีดปอกผลไม้ และอีกมือหนึ่งถือโทรศัพท์ ซึ่งจังหวะนั้นด้วยความระเเวงตนจึงจ้องกันไปจ้องกันมากับอีกห้องว่าเขาจะทำอะไร เพราะตั้งแต่เข้าไปในห้องน้ำกลับไม่พบพฤติกรรมว่าเป็นการเข้าทำธุระในห้องน้ำ จนผ่านไป 3 นาทีก็มีหัวผู้ชายคนหนึ่งโผล่พ้นกำแพงกั้นห้องน้ำมา รับวินาทีนั้นตกใจพร้อมตะโกนถามอีกฝ่ายว่า “อะไรงะ พี่ทำอะไร” แล้วก็เหตุการณ์หลังจากนั้นก็เป็นไปตามคลิปที่ตนได้แชร์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งอีกฝ่ายเองก็ปฎิเสธว่าไม่มีอะไร อ้างเพียงว่ารีบเลยเข้าห้องน้ำผิด พร้อมเปิดมือถือให้ดูว่าไม่มีคลิปแอบถ่าย
มองเรื่องดังกล่าวถือเป็นการคุกคามทางเพศ ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าคลิปและภาพของตนคงไม่มีจริง เพราะตนสังเกตดูพฤติกรรมของเขาตั้งแต่ต้นตั้งแต่ข่วงที่เขาเข้าห้องน้ำไป ชายดังกล่าวเลยอาจจะไม่กล้าถ่าย ลั่นเหตุผลที่อีกฝ่ายอัางว่าด้วยความรีบเลยเข้าห้องน้ำผิด ส่วนตัวมองว่าฟังไม่ขึ้นเพราะหากย้อนไปดูสถานที่จริงจะเห็นป้ายบอกชัดเจนในการแบ่งห้องน้ำขายและหญิง ตลอดจนไฟบริเวณดังกล่าวก็มีไม่ได้เป็นมุมมืด ส่วนความชัดเจนว่าพฤติกรรมของเขาส่อแววในลักษณะเข้าใจผิดหรือจงใจ อาจจะต้องรอดูในกล้องวงจรปิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้
“ในทางกฎหมายแม้ว่าจะไม่มีภาพและคลิปเป็นหลักฐานชัดเจน แต่ต้องบอกว่าพฤติกรรมที่ตนเจอนั้นเจตนารมณ์ของเขาส่อไปในเรื่องของการคุกคามทางเพศชัดเจน หากอีกฝ่ายจะอ้างเหตุผลอื่นแต่สุดท้ายมันคือการคุกคามทางเพศ แล้วจะต้องไม่มีความผิดเหรอ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในห้องน้ำหญิง เมื่อถามว่านอกเหนือจากเหตุผลทางการคุกคามทางเพศแล้วมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่ อันนี้ก็ต้องไปถามอีกฝ่าย เพราะตนไม่อยากตัดสินอะไรไปก่อน ทุกอย่างตีความไปได้หลายรูปแบบ คนที่รู้ดีที่สุดในเจตนาของการกระทำครั้งนี้ก็คือเขา”
“หมิว” เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองไม่ได้เจอการคุกคามในรูปแบบจังๆ มีแต่เจอในช่องทางออนไลน์ โซเชียล ตลอดจนไม่เคยเจอการคุกคามจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ส่วนเหตุผลว่าทำไมตนถึงพกมีดไว้ในเหตุการณ์ดังกล่าว ต้องบอกว่าเป็นมีดปอกผลไม้ที่ติดรถไว้ตลอดเวลา ในฐานะผู้หญิงคนเดียวที่เวลาขับรถไปทำงานต่างจังหวัดหากเกิดเหตุอะไรก็สามารถใช้ป้องกันตัวได้ ปัดไม่ใช่เพิ่งจะมาพกในช่วงนี้ เพียงแค่วันที่เกิดเหตุการณ์ตนรู้สึกแปลกๆ และไม่ปลอดภัย
“ทางต้นสังกัดของนายตำรวจดังกล่าวได้ติดต่อมาพูดคุยเบื่องต้นแล้วหลังเกิดเหตุ พร้อมถามไถ่ถึงนายตำรวจรายดังกล่าวแล้วพร้อมทำการสอบสวนให้เร็วที่สุด โดยที่เขาเองก็ไม่ได้มีการชี้เเจงสาเหตุที่ทำไป ส่วนจุดประสงค์ในการเเจ้งความครั้งนี้ส่วนตัวอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่โดนกระทำ แม้ว่าในใจตอนแรกก็อยากจะพูดคุยและเจรจาหากอีกฝ่ายยอมรับผิดและขอโทษ ส่วนตัวก็พร้อมให้อภัยและไม่เอาเรื่อง แต่มาถึงตอนนี้กลับไม่ได้ยินคำพูดรับผิดชอบจากอีกฝ่าย หนำซ้ำอีกยังมีการออกมาให้ข้อมูลว่าตนเป็นฝ่ายโวยวายไปเองโดยที่ไม่ได้มีอะไร ส่วนตัวเองก็เข้าใจหัวอกของครอบครัวเขา และหน้าที่การงานของเขาหากเขาไม่ได้ตั้งใจทำ ตนก็ไม่อยากให้เขาเดือดร้อน แต่ ณ ตอนนี้ตนมองเจตนารมณ์ของเขายังไม่บริสุทธิ์ใจเลยขอดำเนินการไปตามกฎหมาย”
“หมิวเป็นประชาชนคนหนึ่ง หากพูดในฐานะกระบอกเสียงของประชาชนคนหนึ่ง ก็อยากจะบอกว่าเรามีสิทธิขั้นพื้นฐานเราแค่อยากได้ความปลอดภัยจากการใช้ชีวิตประจำวัน แค่นี้เองที่เราอยากได้แต่ตำรวจทำอะไรอยู่ หน้าที่หลักของตำรวจคืออะไร แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ตำรวจกลับมาคุกคามประชาชนเสียเอง แล้วเราจะพึงพาใครได้ แต่ในอีกใจหนึ่งส่วนตัวก็ยังเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมอยู่ ลั่นวันนี้หากอีกฝ่ายจะขอไกล่เกลี่ยก็คงต้องว่ากันอีกที “
เมื่อถามว่าหากเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการทำตามใบสั่งของผู้มีอำนาจหนือคาบเกี่ยวกับประเด็นการเมือง ทาง “หมิว” เล่าว่า คงต้องถามเหตุผลจากอีกฝ่ายก่อนว่าทำเพื่ออะไร ทั้งนี้หากอีกฝ่ายอ้างว่าเป็นคำสั่งจากหัวหน้าที่สั่งมาให้ติดตามตน ตนก็พร้อมขอถามว่า “เขาจำเป็นไหมที่ต้องทำแบบนี้ แล้วทำไมถึงทำแบบนั้น ถ้าวันหนึ่งเหตุการณ์นี้ไปเกิดขึ้นกับน้องสาว แฟน ภรรยา หรือคนที่เขารักแล้วจะเป็นอย่างไร”
ลั่นหากเหตุการณ์ที่ตนเจอไม่ได้จบที่ตนตามเขาออกมา ถ้าเกิดคนนั้นเป็นคนร้ายจริงๆ แล้วตนโดนทำร้ายจริงๆ คนแก่ที่บ้าน 2 คนจะอยู่อย่างไร ตนเป็นลูกผู้หญิงคนเดียวที่เลี้ยงดูคนที่บ้าน แล้วพ่อกับแม่จะอยู่อย่างไร
รวมถึงหากเหตุการณ์นี้ไปเกิดขึ้นกับลูกสาว คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือภรรยาของบ้านไหนก็ตาม มันไม่ได้ทำร้ายแค่ชีวิตของคนๆ เดียว แต่นั้นหมายถึงการทำลายชีวิตของคนทั้งครอบครัว หนำซ้ำมันก็สร้างบาดแผลให้คนๆ หนึ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะมองข้าม มันเป็นความปลอดภัยและสิทธิที่เราควรจะได้ ส่วนตัวไม่ขอพูดเยอะไปกว่านี้หวั่นอาจจะเชื่อมโยงไปถึงประเด็นอื่น
