Connect with us

region,ข่าวไทย, เชียงรายนิวส์,

7 วันอันตราย วันแรกดับแล้ว 43 เจ็บ 438 เมาแล้วขับเป็นเหตุ เชียงใหม่เยอะสุด

Published

on

7 วันอันตราย วันแรกดับแล้ว 43 เจ็บ 438 เมาแล้วขับเป็นเหตุ เชียงใหม่เยอะสุด

เปิดฉาก 7 วันอันตราย วันแรกดับแล้ว 43 ศพ เจ็บ 438 ราย เกิดอุบัติเหตุ 414 ครั้ง “ซิ่ง-เมาขับ” ต้นเหตุหลัก ปภ.เข้มงวดการเดินทางช่วงปีใหม่ ย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 ระบาด “บิ๊กป้อม”สั่งดูแลประชาชนเต็มที่ ‘ศักดิ์สยาม’ ขึ้น ฮ.บินสำรวจการจราจร ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ 5% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)และหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน วันที่ 29 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ ว่าเกิดอุบัติเหตุ 414 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 438 ราย

7 วันอันตราย วันแรกดับแล้ว 43 เจ็บ 438 เมาแล้วขับเป็นเหตุ เชียงใหม่เยอะสุดสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 32.85 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 24.88 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 81.11 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 66.43 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.89 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.13 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01–20.00 น.ร้อยละ 29.47 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.94

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,933 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,575 นาย เรียกตรวจยานพาหนะ 288,881 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 44,657 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 12,648 ราย ไม่มีใบขับขี่ 12,154 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จ.มหาสารคาม (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จ.ชลบุรี บุรีรัมย์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และอุดรธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ (17 ราย)

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้คาดว่าประชาชนเริ่มเดินทางออกจาก กทม.กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว โดยถนนสายหลักที่มุ่งสู่ภูมิภาคต่างๆ จะมีปริมาณรถหนาแน่น ศูนย์อำนวยการฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นกวดขันปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการขับรถเร็วและเมาแล้วขับ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมกันนั้น ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเส้นทางหลัก สายรอง และเส้นทางเลี่ยงที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด บริหารจัดการจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง

7 วันอันตราย วันแรกดับแล้ว 43 เจ็บ 438 เมาแล้วขับเป็นเหตุ เชียงใหม่เยอะสุดด้านนายชัยณรงค์ วาสนะสมสิทธิ์ รองอธิบดีปภ.กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานศูนย์อำนวยการฯ จังหวัด บูรณาการร่วมกับตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานในจุดตรวจ จุดบริการ และด่านชุมชน โดยเฉพาะเส้นทางสายรองและเส้นทางเลี่ยงทางลัด ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด เพื่อเสริมประสิทธิภาพการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง ส่วนบางจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ อาจมีฝนตก ทำให้ถนนลื่น ทัศนวิสัยไม่ดี เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ จึงประสานให้เพิ่มการดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง กวดขันการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่าขณะนี้หน่วยงานราชการดูแลเต็มที่อยู่แล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในเรื่องของการเดินทางต่างๆ และรักษากฎระเบียบการจราจรให้ดี ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราก็ระมัดระวังกันอยู่แล้ว จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันดูแลตัวเอง

ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพการจราจรเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยมีการตรวจสภาพจราจรถนนวิภาวดีรังสิต ถนนมิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เนินคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนถนนมิตรภาพ แล้วจึงตรวจสภาพการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 304 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และอ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า รมว.คมนาคม กำชับให้ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยตั้งเป้าลดลงไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยช่วงเทศกาลปีใหม่ย้อนหลัง 3 ปี เน้นย้ำการควบคุมการปฏิบัติตามกฎจราจร ดื่มไม่ขับ นอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมบริการระบบขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถโดยสาร รถไฟ เรือโดยสารและเครื่องบิน ให้เพียงพอ

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทุกจังหวัดดำเนินการขับเคลื่อนแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตามแนวทางที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กำหนดมาตรการไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องยานพาหนะ ต้องตรวจสภาพทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะให้มีสภาพพร้อมใช้งาน และเรื่องถนน ต้องวางมาตรการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยในทางร่วมทางแยกหรือทางรถไฟตัดผ่าน ทั้งนี้ เพื่อสวัสดิภาพของพี่น้องประชาชนขอให้ทุกภาคส่วนร่วมรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านกับครอบครัว หลีกเลี่ยงการเดินทาง ใช้ชีวิตปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ และไม่ติดไวรัสโควิด-19 – แหล่งข่าว

Continue Reading
Advertisement

ผลบอลสด

ผลบอลสด