News
เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นการกระทำที่ขัดต่อระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ
ศาลรัฐธรรมนูญของไทยวันนี้ (วันพุธ) วินิจฉัยว่า ปนัสยา “รุ่ง” สิทธิจิรวัฒนกุล, อานนท์ นำภา และ ภานุพงศ์ “ไมค์” จัดนอก มีความผิดฐานพยายามล้มล้างระบอบรัฐธรรมนูญของประเทศ โดยระบุว่า พระมหากษัตริย์ไม่สามารถละเมิดได้ และกลุ่ม ได้ยุยงให้เกิดความแตกแยกด้วยเจตนาทุจริต
แกนนำการประท้วงทั้งสามถูกกล่าวหาว่าใช้สิทธิในการแสดงออกอย่างเสรีในลักษณะที่แสดงเจตจำนงที่จะล้มล้างระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญของไทยในระหว่างการประท้วงที่วิทยาเขตรังสิตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมNS ปีที่แล้ว.
ด้วยคำตัดสินนี้ ศาลไม่สามารถลงโทษพวกเขาได้ แต่สามารถก่อให้เกิดคดีอาญาที่มีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตตามคำพิพากษา
อย่างไรก็ตาม ศาลได้มีคำสั่งให้ทั้งสามยุติกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นความพยายามที่จะล้มล้างระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ โดยผู้พิพากษากล่าวเสริมว่า “ถึงแม้การประท้วงในวันที่ 10 ส.ค.NSปี 2020 ผ่านไปและมีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ประท้วง จำเลยยังคงเข้าร่วมการชุมนุมต่อไป”
“การเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญที่รับรองอำนาจของพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขซึ่งไม่มีใครสามารถกล่าวหาหรือละเมิดได้เป็นการกระทำที่ชัดเจนโดยมีเจตนาที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 กำลังบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและโจมตีในที่สาธารณะโดยอ้างว่าเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญไม่เพียง แต่เป็นความประพฤติไม่ดีด้วยคำพูดที่หยาบคาย แต่ยังละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นที่คิดว่า แตกต่างออกไป” ผู้พิพากษากล่าวในการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดี
การปกครองยังคงดำเนินต่อไป “พระมหากษัตริย์ไทยเป็นที่เคารพนับถือเสมอมาและเป็นศูนย์กลางของศรัทธาและความสามัคคีของคนไทยหลายร้อยปี ดังนั้นแม้ว่าระบอบการเมืองของประเทศไทยจะเปลี่ยนไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 นักปฏิวัติ “พรรคประชาชน” และคนไทยก็ตกลงที่จะเชิญพระมหากษัตริย์ให้อยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตยใหม่”
ก่อนที่ศาลจะประกาศคำพิพากษาในคดีนี้ คุณภาณุสยาได้ยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลเป็นลายลักษณ์อักษร เธอเป็นผู้ต้องหาเพียงคนเดียวที่ปรากฏตัวต่อหน้าศาลในบ่ายวันนี้ ขณะที่อีกสองคนคือ อานนท์ นำภา และภานุพงศ์ จัดนอก ถูกควบคุมตัวในเรือนจำคุมขังกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ภาณุสยาได้ออกมาเดินขบวนก่อนที่จะอ่านคำพิพากษาอันยาวนาน เพื่อประท้วงว่าศาลไม่ได้ให้โอกาสเธอและเพื่อนๆ ของเธอในการป้องกันตัวเองและรับฟังข้อโต้แย้งของพวกเขา
ในระหว่างการประท้วง กลุ่มต่อต้านการก่อตั้งรัฐดลได้ประกาศข้อเสนอ 10 ประการเพื่อปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
ในคำแถลงที่เป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ต้องหาทั้งสามอธิบายว่าการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ใช่ความพยายามที่จะล้มล้างระบอบกษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญตามที่กล่าวหา
พวกเขาอ้างว่าข้อเสนอของพวกเขามีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญ ข้อเสนอเกี่ยวกับอำนาจของพระมหากษัตริย์นั้นสอดคล้องกับหลักการของ “พระมหากษัตริย์ไม่สามารถทำอะไรผิด”
ส่วนการเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ๓ ประการ ได้แก้ต่างข้อเสนอว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแสดงออกโดยเสรี โดยยึดหลักว่าประชาชนเป็นอำนาจสูงสุด และด้วยเหตุนี้ ประชาชนจึงควรมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์รัฐใด สถาบัน.
ส่วนข้อเสนอให้แยกทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้น ทั้งสองหน่วยงานมีความเกี่ยวโยงกับประชาชน
ข้อเสนอให้ตัดงบประมาณของในหลวง อธิบายว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและพระมหากษัตริย์ควรแบ่งปันทั้งความสุขและความทุกข์ของประชาชน
ข้อเสนอเพื่อยุติการเรี่ยไรเงินบริจาคสาธารณะ ตามคำแถลงปิดท้าย มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีเจตนาร้ายใช้ประโยชน์จากการบริจาคเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และกลุ่มต่อต้านการจัดตั้งหวังเพียงผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น
#เรยกรองใหปฏรปสถาบนพระมหากษตรยเปนการกระทำทขดตอระบอบราชาธปไตยตามรฐธรรมนญ
Home Page