News
ททท. จับมือเอทิฮัด เปิดตัว ‘เยือนไทย ปี 2565’ สู่ภูมิภาคอ่าวไทย – ททท. ห้องข่าว
กรุงเทพฯ 10 พฤศจิกายน 2564 – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดภารกิจการตลาดการท่องเที่ยวพิเศษในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งส่งผลให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพันธมิตรสายการบินเชิงกลยุทธ์และการรับรู้ที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับ ‘Visit Thailand ปี 2022’ ในภูมิภาคอ่าวไทย
ระหว่างปฏิบัติภารกิจเมื่อวันที่ 2-3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 คณะผู้แทนระดับสูงของททท. ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (LoI) กับสายการบินเอทิฮัด นำเสนอแคมเปญการตลาดการท่องเที่ยวล่าสุดแก่ชาวเอมิเรตส์และผู้มีอิทธิพลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับสายการบินแอร์อาระเบีย และโอมานแอร์
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ททท. กล่าวว่า “ปีหน้าปี 2565 จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ของประเทศไทย เนื่องจากจะเป็นปีแห่ง ‘เยือนไทย’ โดยตลอดทั้งปีเราจะเชิญนักเดินทางจากทั่ว ให้โลกสัมผัส “บทใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ” ของประเทศไทย ดังนั้นข้อความสำคัญของเราจะเน้นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวของราชอาณาจักร ซึ่งจะตอบสนองความต้องการด้านการเดินทางของผู้มาเยือนทุกคน เพราะประเทศไทยมีครบทุกอย่างตั้งแต่ A ถึง Z”
ก่อนเริ่ม ‘เยือนไทยปี 2565’ อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนจาก 63 ประเทศและดินแดน รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย ให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรโดยไม่มีข้อกำหนดกักกัน ภายใต้รูปแบบการยกเว้นจากการกักกัน (Test & Go) และการใช้ชีวิตในโซนสีน้ำเงิน (17 ปลายทางแซนด์บ็อกซ์) เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
รายชื่อประเทศที่ได้รับอนุมัติจะขยายเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ในขณะเดียวกันได้มีการเปิดตัวระบบเว็บ “Thailand Pass” เพื่อรองรับนโยบาย “ความสะดวกในการเดินทาง” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกรอกข้อมูล ข้อมูลการเดินทางและสุขภาพ และอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องก่อนเดินทางมาประเทศไทย
ช่วงเวลาไม่น่าจะดีไปกว่านี้แล้ว สำหรับ ททท. และสายการบินเอทิฮัดจะสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ทั้งสองลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (LoI) เพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อพัฒนาและส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในประเทศไทยสำหรับนักเดินทางจากภูมิภาคอ่าวไทย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “หนังสือแสดงเจตจำนงฉบับนี้จะปูทางสำหรับความพยายามในความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงกลยุทธ์ระหว่างททท. และสายการบินเอทิฮัด โดยเน้นที่นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในการสร้างรายได้ เราคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางชาวอาหรับจากภูมิภาคอ่าวไทย”
ภายใต้ข้อตกลง LoI ททท. และสายการบินเอทิฮัดจะบังคับใช้โปรโมชั่นร่วมกันเพื่อเพิ่มการท่องเที่ยวและการมองเห็นของประเทศไทยร่วมกันผ่านเครือข่ายทั่วโลกของสายการบินเอทิฮัด โปรโมชั่นจะเน้นไปที่ตลาดการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เช่น การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวที่หรูหรา สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
จดหมายแสดงเจตจำนง (LoI) ระหว่างททท. และสายการบินเอทิฮัดลงนามในดูไบเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 โดยนายฉัตรตัน กุญจรา ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านการตลาดระหว่างประเทศ ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา และนางสาว. Amina Taher รองประธานแบรนด์ การตลาดและการให้การสนับสนุน สายการบินเอทิฮัด
คณะผู้แทนระดับสูงของททท. ยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับ Air Arabia และ Oman Air ระหว่างภารกิจการตลาดที่ดูไบ
นโยบายการขอวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงสำหรับบุคคลสัญชาติในภูมิภาคอ่าวไทย ควบคู่ไปกับโครงการยกเว้นจากการกักกัน (Test & Go) นำเสนอโอกาสที่ทั้งสายการบินแอร์อาระเบียและโอมานแอร์จะพิจารณาบริการที่กลับมาให้บริการในประเทศไทยอีกครั้ง การพัฒนาครั้งใหม่ที่น่าสังเกตคือ โอมานแอร์จะกลับมาให้บริการมัสกัต-กรุงเทพฯ อีกครั้งด้วยเที่ยวบิน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ททท. ยังได้เชิญเอมิเรตส์และผู้มีอิทธิพลที่เข้าร่วม “เยือนไทย ปี 2565 ภาคใหม่สุดอัศจรรย์ ต้อนรับมิตรสหายไทย” เพื่อเยี่ยมชมศาลาไทยในงาน Expo 2020 Dubai โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์อาหารและสุขภาพไทยแท้ตั้งแต่วันที่ 4 – 8 พฤศจิกายน 2564 และสัปดาห์ความสุขไทยระหว่างวันที่ 11 – 15 มีนาคม 2565
#ททท #จบมอเอทฮด #เปดตว #เยอนไทย #ป #สภมภาคอาวไทย #ททท #หองขาว
Home Page