ม.ธรรมศาสตร์ ปะทะ กระทรวงการต่างประเทศ วัคซีนหาย 1.5 ล้านตัว

ดูเหมือนว่าฝุ่นยังคงเกาะตัวไปมาที่หลุมโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กับกระทรวงการต่างประเทศใน การต่อสู้ นำเข้าวัคซีน Moderna ฟรี 1.5 ล้านรายการที่โปแลนด์บริจาค แต่ละฝ่ายโต้แย้งว่าเป็นความล้มเหลวของอีกฝ่ายหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถรับวัคซีนในประเทศไทยได้

มหาวิทยาลัยได้ประสานข้อตกลงกับ Thonburi Healthcare Group หลังจากทำงานมาสามเดือน จัดทำบันทึกความเข้าใจที่จะช่วยให้บริษัทเอกชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โรงเรียนจะประสานงานกับซัพพลายเออร์ระหว่างประเทศเพื่อนำวัคซีนเข้ามาในประเทศไทย และเพื่อแลกกับบริษัทเอกชนอย่าง THG จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านโลจิสติกส์ เช่น การควบคุมคุณภาพ การประกันภัย และการขนส่ง

มีข้อตกลงกันว่าจะรับภาระต้นทุนด้านลอจิสติกส์ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลายล้านบาท THG จะได้รับวัคซีน 1 ล้านวัคซีน จากนั้นจึงขายให้กับลูกค้า มหาวิทยาลัยจะได้รับวัคซีนครึ่งล้านตัวที่พวกเขาสาบานว่าจะจัดการให้ฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

ทุกอย่างในแผนดูเหมือนดี เหลือเพียงต้องได้รับจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศซึ่งให้ไฟเขียวแก่โครงการนี้ และนั่นคือตอนที่มันชนกับกำแพงอิฐ กระทรวงปฏิเสธที่จะให้จดหมายแก่พวกเขา

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าการทำงานหนักเพื่อได้รับวัคซีนนั้นเปล่าประโยชน์ และข้อตกลงดังกล่าวก็ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ทางกระทรวงกลับไม่พอใจกับการกำหนดลักษณะนี้ และเสนอเรื่องราวเบื้องหลังเพิ่มเติมว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ลงนามในเอกสาร

พวกเขากล่าวว่าพวกเขาเชื่อว่าแผนของมหาวิทยาลัยละเมิดกฎที่โปแลนด์กำหนดไว้สำหรับการบริจาค เจ้าหน้าที่ในโปแลนด์กล่าวว่าวัคซีนที่บริจาคไม่สามารถขายได้ ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงรู้สึกว่าแต่ยอมให้ THG ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้วยการขายวัคซีนถือเป็นการละเมิดกฎข้อนี้โดยตรง และพวกเขากลัวว่าการลงนามในเรื่องนี้จะทำให้ประเทศเสียหาย เสี่ยงต่อการสูญเสียความน่าเชื่อถือและสถานะที่ดีกับโปแลนด์

รพ.ธรรมศาสตร์จึงตอบโต้รัฐบาลโดยบอกว่าอยากให้กระทรวงการต่างประเทศมีความโปร่งใสพร้อมให้เหตุผลมากกว่านี้ เพราะจะทำให้มหาวิทยาลัยมีโอกาสพยายามปรับโครงสร้างหรือกอบกู้ข้อตกลงด้านวัคซีน แทนที่จะปล่อยให้ทุกอย่างพังทลาย เช่น มันทำ.

พวกเขาไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาที่โรงพยาบาลเอกชนที่บริจาคเงินบริจาคจะชดใช้ค่าใช้จ่ายของพวกเขาโดยการขายวัคซีนสองในสาม และกล่าวว่าราคาที่กำหนดคือ 400 บาท แทนที่จะเป็น 1,100 ที่เรียกเก็บจากการนำเข้าที่ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล

เจ้าหน้าที่ของรัฐแนะนำว่ามหาวิทยาลัยจำเป็นต้องทำการวิจัยและทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะทำข้อตกลงในอนาคต แต่มหาวิทยาลัยกล่าวว่าหลังจากถูกไฟไหม้ พวกเขาจะเลิกแสวงหาการบริจาควัคซีนอีกต่อไปและเสนอให้เฉพาะวัคซีนที่ซื้อแล้วเท่านั้น

แหล่งที่มา: ไทยพีบีเอสเวิลด์