News
จับตาหุ้นไทย ยังคงร่วงต่อเนื่อง ไวรัสโควิด-19 ทำพิษเศรษฐกิจ ลดลง -20.35 จุด
ยังคงร่วงต่อเนื่อง ไวรัสโควิด-19 ทำพิษเศรษฐกิจ ลดลง -20.35 จุด
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 เมษายน 2563) การซื้อขายหลักทรัพย์ ดัชนี SET Index ยังคงผันผวนและเคลื่อนไหวปรับลงในแดนลบ โดยปรับลดลงต่ำสุด 20.52 จุด หรือ 1.82% อยู่ที่ 1,105.34 จุด ปิดตลาดบ่าย ปรับลดที่ระดับ 1,105.51 จุด ลดลง -20.35 จุด หรือ 1.81% มูลค่าการซื้อขายรวม 67,169 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,132.10 จุด
จากความกังวลของนักลงทุนต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ที่ยังคงมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก แม้แรงซื้อดันดัชนีไปยืนแดนบวกเมื่อปิดตลาดเช้าในวันนี้ แต่ในที่สุดก็ต้านแรงขายไม่ไหวเมื่อปิดตลาดบ่ายจึงกลับมาอยู่แดนลบ สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกในวันที่ 1 เมษายน 2563 คือ
- บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง -0.50 บาท
- บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 195.50 บาท ลดลง -5.50 บาท
- บริษัท ท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง -1.25 บาท และ
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่60.25 บาท ลดลง -0.75 บาท
คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัท หลักทรัพย์ เอเชียพลัส หรือ APS หนึ่งในบริษัทชั้นนำ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส แรกของปี 2563การเทรดหุ้นในประเทศไทยประสบปัญหาหลายด้านทำให้เกิดปัจจัยลบมากมาย โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทำให้มีมาตรการต่างๆ ออกมา เช่น การปิดเมือง การกำหนดเวลาทำธุรกิจ เหล่านี้ ล้วนส่งผลให้เศรษฐกิจย่ำแย่และตลาดหุ้นตกต่ำที่สุดในรอบ 21 ปี ซึ่ง SET Index ลดลงไปถึง 28.7% โดยสภาวะเช่นนี้ APS มองทิศทางตลาดหุ้นของไทยต่อไปในไตรมาส 2/63 ว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนสูง และ SET Index อาจปรับต่ำลงไปกว่าระดับ 1,000 จุดเลยทีเดียว
การปิดตลาดในช่วงเช้าที่ยังเป็นบวก อาจเป็นเพราะว่าสถานการณ์การคุมกระแสติดเชื้อไวรัสในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียยังดีกว่าสหรัฐที่มีการปรับตัวลงมากขึ้น อีกทั้ง ประเทศไทยยังมีแรงหนุนในกองทุนเพื่อการออมระยะยาวฉบับพิเศษ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีของไทยที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้อาจจะมีมาตรการมาช่วยพยุงเศรษฐกิจในไตรมาส 3 และ 4 ต่อไปได้ ซึ่งเหล่านี้อาจช่วยให้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้มีกระแสการคาดการณ์ออกมาว่าในอนาคต ความกังวลอาจคลี่คลายลงจากเรื่องเชื้อไวรัส ซึ่งเราจะต้องคอยจับตาดูกันต่อไปว่าเศรษฐกิจและการเทรดหุ้นในไทยจะเป็นเช่นไร
การตกลงเช่นนี้เกิดจากแรงขายต่างชาติซึ่งมีมูลค่าถึง 1.15 แสนล้านบาท จนส่งผลกระทบต่อเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อ่อนค่ามาแล้ว 8% (YTD) ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นต่อเนื่อง จนฉุดเงินบาทให้อ่อนค่าไปถึง 33 บาทต่อดอลลาร์ แล้ว ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมาได้ปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 42.6 จากเดือนก่อนอยู่ที่ 44.1 ทั้งนี้ มิได้เกิดจากภาคการผลิตแต่จากความกังวลในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากความกังวลอาจเป็นเพราะทั่วโลกกำลังเลือกใช้มาตรการชะลอการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจในการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสเช่นกัน
ในขณะนี้สถานการณ์โลกต่างได้รับผลกระทบที่รุนแรงต่อเนื่องเป็นลูกโซ่และกระทบมาถึงประเทศไทย ซึ่งตลาดหุ้นอาจต้องปรับตัวและให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา ในการเทรดหุ้นบ้านเราแม้ได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มไอซีที เป็นหลัก แต่ทางธนาคารโลกก็ได้แนะนำให้มีการร่วมมือลงทุนด้านสาธารณสุขกันระหว่างประเทศในระยะยาว ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วแม้จะมีอุปสรรคในช่วงวิกฤติเช่นนี้