จ่อออกหมายเรียก ลูกเทพ ทุบกระจกรถครูเสียหาย พบก่อเหตุมาแล้ว 8 ครั้ง
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้ก้อนหินทุบกระจกรถเก๋ง ได้รับความเสียหาย ภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1 จังหวัดศรีสะเกษ จนกระจกหลังรถแตกละเอียดเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา
นางพรประภา รัชตะธนิตกุล เจ้าของรถ เล่าว่า เธอเป็นครูในโรงเรียนแห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุได้มาอบรมที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษเขต 1 โดยได้จอดรถไว้ตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงช่วง 15.20 น. มีคนมาบอกว่ารถถูกคนร้ายทุบกระจก จึงรีบออกมาดูก็ไม่พบคนร้าย
ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นชายรูปร่างอ้วน สวมชุดดำ และหมวกกันน็อกขี่รถจักรยายนต์บิ๊กไบก์ มาจอดที่หลังรถ ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังตูม จากนั้น ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ด้านตำรวจบอกว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง คนที่ก่อเหตุน่าจะคนเดียวกับคดี “ลูกเทพ” ที่ทุบกระจกรถประชดแม่ที่ไม่ให้เงิน แล้วก็กลับมาก่อเหตุอีก
โดยเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) ผู้กำกับการ สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 1 และชุดสืบสวนได้ประชุมหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากลูกเทพ ซึ่งเป็นชายอายุ 23 ปี ที่บุกทุบกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในสำนักงานแห่งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว พร้อมเชิญตัวแม่ของผู้ก่อเหตุมาพูดคุยตกลงกัน
ผู้กำกับการ สภ.เมืองศรีสะเกษ บอกว่า จากการพูดคุยกับแม่ของผู้ก่อเหตุ ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายกับลูกชาย หลังจากนี้จะออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้มารายงานตัว หากยังไม่มาก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ถ้ายังไม่มาอีกก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับ นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะก่อเหตุมาแล้วรวม 8 ครั้ง 8 คดี ซึ่งใน 7 คดีที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดี
สำหรับเหตุการณ์รถถูกทุบกระจก ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 นั้นเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว มีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานแห่งนี้ สาเหตุเพราะขอเงินแม่จำนวนหลายแสนบาท แต่แม่ไม่ให้ จึงเข้ามาใช้ก้อนทุบกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่ รวมทั้งจุดไฟเผารถข้าราชการในสำนักงานและผู้ที่มาติดต่อราชการ เพื่อประชดแม่ และทุกครั้งที่มีการทุบรถ แม่ก็จะไปเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถทุกคัน ทำให้ก่อนหน้านี้ลูกชายไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา