News
กฟผ.เดินหน้าจัดทำอีไอเอโรงไฟฟ้าน้ำพอง ยันคุมเข้มผลกระทบสิ่งแวดล้อม
กฟผ. เตรียมมาตรการรองรับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน รับทุกข้อคิดเห็น มุ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมชนและประเทศเสริมความมั่นคงด้านพลังงานภาคอีสาน
นายเอกรัฐ สมินทรปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เดือนก.ย. 2562 และจัดรับฟังครั้งที่ 2 ไปเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาที่จ.ขอนแก่น ดำเนินการโดย บริษัทคอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด (COT) บริษัทที่ปรึกษา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)โครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทน
ทั้งนี้กฟผ.เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นในขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานฯ เพื่อนำเสนอผลการศึกษาและร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตาตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้ร่วมกันพิจารณารายละเอียดการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมในทุกมิติ โดย เปิดโอกาสให้ชุมชนในพื้นที่อ.น้ำพอง 4 ตำบลและอ.อุบลรัตน์ 2 ตำบล รวมทั้งประชาชนทั่วไปร่วมประชุม มีผู้เข้าร่วมประชุม ครั้งที่ 1 จำนวน 1,017 คน และครั้งที่ 2 จำนวน 729 คน
สำหรับข้อห่วงกังวลที่ประชาชนให้ความสนใจ อาทิ ประเด็น เรื่องปริมาณกำลังการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่มีปริมาณสำรองเพียงพอทำไมต้องมีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองนั้น เนื่องจากกำลังผลิตไฟฟ้าหลักในปัจจุบันของภาคอีสานมาจากโรงไฟฟ้าน้ำพองที่กำลังจะหมดอายุและต้องปลดออกจากระบบในปี 2568 ส่งผลต่อความมั่นคงไฟฟ้าในพื้นที่ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟที่เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2561-2580 (PDP 2018) จึงได้กำหนดให้มีโครงการโรงไฟฟ้าน้ำพองทดแทนขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าของภาคอีสานและในภาพรวมของประเทศ นอกจากนี้การมีโรงไฟฟ้าในพื้นที่จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าของ ภาคอีสานมีความมั่นคง ช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภาคเหนือและภาคกลาง
ส่วนประเด็น ข้อกังวลผลกระทบด้านคุณภาพอากาศ กฟผ. จะมีการควบคุมมลสารที่ระบายออกทางปล่องให้เป็นตามค่าควบคุมและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ควบคุมการระบายทางอากาศไม่ให้เกินกว่าที่กำหนดในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีการติดตั้งระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องและ จัดให้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ปีละ 2 ครั้งๆ 7 วันต่อเนื่อง ในพื้นที่ชุมชน จำนวน 4 สถานี
ขณะที่การควบคุมคุณภาพน้ำทิ้งจากโรงไฟฟ้ากฟผ. คำนึงถึงการนำน้ำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยน้ำจากกระบวนการผลิตที่ผ่านการบำบัดแล้วจะรวบรวมส่งไปยังบ่อพักน้ำทิ้งของโครงการ เพื่อตรวจสอบคุณภาพก่อนนำไปใช้ประโยชน์ เช่น นำไปรดน้ำต้นไม้ในพื้นที่โรงไฟฟ้า โดยไม่มีการระบายออกภายนอก สำหรับน้ำจากหอหล่อเย็นจะรวบรวมลงสู่บ่อพักน้ำทิ้ง โดยมีระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำแบบต่อเนื่อง เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ค่าออกซิเจน ค่าความเป็นกรด-ด่าง ฯลฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนระบายลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ – อ่านต่อไป