learning - การเรียนรู้
รัฐบาลเตรียมยกเครื่องระบบการศึกษาไทย
เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมงาน “ยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ (Thailand Education Eco-system)” โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค ถนนสุขุมวิท 101
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การยกกำลังสองการศึกษาไทย สู่ความเป็นเลิศ ถือเป็นการเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การศึกษาไทย โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาและอุปสรรค ที่ส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษา การปฏิรูปการศึกษาจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะการนำภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการศึกษา เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตให้กับลูกหลานของเรา ภายใต้การนำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มาเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายการดำเนินงาน และติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งในโลกยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทกับการพัฒนาประเทศในทุกด้าน เราจึงต้องเตรียมความพร้อมในการผลิต และพัฒนากำลังคนในทุกมิติ ให้สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ทุกช่วงวัย อาทิ การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ภาษาต่างประเทศ การสนับสนุนการเรียนรู้กับชุมชน เป็นต้น เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้หลังจบการศึกษา
นอกจากนี้ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลาหลายปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาไทยหลายด้าน โดยขอฝากให้กระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารสถานศึกษา และครู ร่วมกันพัฒนาการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงฝากการดำเนินงานในด้านอื่น ๆ เช่น การลดจำนวนการบ้านของเด็กนักเรียน, การแนะแนวเด็กให้พัฒนาความสามารถได้อย่างเต็มศักยภาพ ตามพรสวรรค์ของแต่ละคน, การสอนประสบการณ์นอกห้องเรียนให้นักเรียน, การลดภาระงานเอกสารของครู, การอบรมและพัฒนาครูอย่างมีประสิทธิภาพ, การเตรียมกำลังคนรุ่นใหม่เพื่อรองรับอุตสาหกรรม New S-curve เป็นต้น โดยเฉพาะการตั้งศูนย์อบรมและพัฒนาครูในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ครูได้ใช้เวลาอยู่ในห้องเรียนกับเด็กมากขึ้น และไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อเข้ารับการอบรม
ในส่วนของการอาชีวศึกษา ขอฝากผู้ประกอบการภาคเอกชนในการรับเด็กอาชีวศึกษา เข้าฝึกประสบการณ์ในสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพิจารณาการรับเข้าทำงานเมื่อจบการศึกษา ส่งเสริมให้เด็กอาชีวะมีงานทำ และได้พัฒนาทักษะให้มีความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ระบบการศึกษาของไทย มีรูปแบบการจัดการศึกษาที่หลากหลาย สิ่งสำคัญ คือ การวางรากฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ในการร่วมกันรับผิดชอบ และร่วมกันพัฒนาคนให้มีคุณภาพ เพื่อให้คนเหล่านี้เติบโตและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศในอนาคต- อ่านข่าวเพิ่มเติม