Connect with us

Health

เรียนรู้เกี่ยวกับโรคเกล็ดเลือดต่ำ สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา

Published

on

เรียนรู้เกี่ยวกับโรคเกล็ดเลือดต่ำ สาเหตุ อาการ และทางเลือกในการรักษา

เกล็ดเลือดต่ำคืออะไร?  เกล็ดเลือดต่ำ อาการ ลองนึกภาพว่าถ้าลูกของคุณไม่สามารถไปสนามเด็กเล่นและออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ได้เหมือนปกติ ไม่ว่าจะเป็นการไปขี่จักรยาน เล่นกีฬา หรือแม้แต่ทำกิจกรรมทั่วไปสำหรับเด็ก

สมมติว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับการกระทบกระเทือน เพราะมันอาจทำให้เลือดออกรุนแรงได้ ฉันกังวลว่ามันอาจถึงแก่ชีวิตได้ คุณรู้สึกอย่างไร? หรือเมื่อคนอื่นสังเกตเห็นเลือดกระเซ็นและรอยฟกช้ำบนลูกของคุณ เป็นไปได้ว่าคุณจะตีความรอยช้ำว่าเป็นหลักฐานของการล่วงละเมิดเด็ก

โรคเกล็ดเลือดต่ำ คืออะไร?

โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด หรือ Immune thrombocytopenia (ITP) คือภาวะที่คนไข้มีเกล็ดเลือดลดลง เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด ส่งผลทำให้เลือดไม่สามารถแข็งตัวได้ จึงเกิดอาการเลือดออกได้

สาเหตุของภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

ขณะนี้คาดว่าโรค ITP เกิดจากร่างกายติดเชื้อไวรัส ศ.พญ.นงนุช สิรชัยนันท์ ภาควิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุ

เป็นผลให้พวกเขาพัฒนาภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บป่วย แต่เกล็ดเลือดของพวกเขาถูกทำลาย สาเหตุอื่นๆ ของภาวะเกล็ดเลือดต่ำเรื้อรัง ได้แก่ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) และการติดเชื้อไวรัสเอดส์ หรือไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น เงื่อนไขนี้ส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย

อุบัติการณ์ต่อปีประมาณ 2-6 คนต่อประชากร 100,000 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำกว่า 50,000 ต่อไมโครลิตร จำนวนเกล็ดเลือดมักเกี่ยวข้องกับอาการเลือดออก มีความเสี่ยงที่จะมีเลือดออกรุนแรง โดยเฉพาะหากเกล็ดเลือดต่ำกว่า 10,000 ต่อไมโครลิตร”

อาการของโรคเกล็ดเลือดต่ำ

  • มักมีเลือดออกตามผิวหนัง หรือตามเยื่อบุต่างๆ เช่น เลือดกำเดา หรือเลือดออกตามทางเดินอาหาร
  • บางรายอาจจะพบอาการ วิตกกังวล ซึมเศร้า และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตถ้าเกล็ดเลือดต่ำเป็นระยะยาวนาน

การรักษาภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

ผู้ป่วยหลายคนเข้าใจว่าอาการนี้รักษาไม่หาย อย่างไรก็ตาม กว่า 80% ของผู้ป่วย ITP ในเด็ก และ 60-70% ของผู้ป่วย ITP ในผู้ใหญ่สามารถรักษาให้หายได้ อันเป็นผลมาจากการรับประทานยาเป็นประจำในรายที่เกล็ดเลือดต่ำและมีอาการเลือดออก นอกจากนี้ ดูแลตัวเองด้วยการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย นัดหมายกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพดีขึ้น

  1. การออกกำลังกายอย่างพอดี: ผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำควรเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหักโหม และมีความเสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนร่างกาย จึงแนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่งเหยาะๆ หรือ ว่ายน้ำ เป็นต้น
  2. เลือกรับประทานที่มีประโยชน์และปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย: อาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ที่มีเกลือแร่และวิตามิน และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ไก่ เป็นต้น
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ: วันละประมาณ 8 ชั่วโมง
  4. สังเกตความเปลี่ยนแปลง: ได้แก่อาการเลือดออกที่ผิดปกติ หรืออาการอ่อนเพลียซึ่งอาจเกิดจากการสูญเสียเลือด
  5. แจ้งให้แพทย์ทราบ: หากผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าพบทันตแพทย์หรือพบแพทย์ท่านอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าว่าตนมีโรคประจำตัวทุกครั้ง

ประการสุดท้าย การสนับสนุนจากครอบครัวและการมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยมีความสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ป่วยไม่ควรขวัญเสียหรือผิดหวัง แต่ควรเรียนรู้ด้วยการศึกษาอย่างจริงจังและปฏิบัติตนให้ถูกต้อง ผู้ป่วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำจะสามารถมีความสุขและเติมเต็มชีวิตในลักษณะนี้ได้

Related CTN News:

พรีเมียร์ลีก ตารางคะแนน 2022/23 อัปเดตด้วยการอัปเดตล่าสุด

Continue Reading
Advertisement

ผลบอลสด

ผลบอลสด

ผลบอลสด