Health
ครีมกันแดดแม้ไม่ได้ออกจากบ้านสำคัญแค่ไหน?
ครีมกันแดด
- ปัจจัยที่พบบ่อยที่สุดที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์สำหรับผิวคือการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB การผลิตอนุมูลอิสระซึ่งสามารถนำไปสู่ความชรา รอยเหี่ยวย่น ผิวไหม้แดด และแม้แต่มะเร็งผิวหนัง
- รังสีอัลตราไวโอเลตเอสามารถเข้าสู่โครงสร้างได้แม้ในขณะที่มีกระจกอยู่ นอกจากนี้ยังมีแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากโทรศัพท์มือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องทาครีมกันแดดที่เหมาะสมแม้ในขณะที่คุณอยู่ที่บ้าน
- ควรเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งแสง UVA และ UVB โดยสามารถดูได้จากค่า SPF และ PA ตามลำดับ โดยควรเลือกค่า SPF ตั้งแต่ 30 และมีค่า PA ตั้งแต่ 3+ ขึ้นไป ควรเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งแสง UVA และ UVB
แสงแดดและรังสี UV ส่งผลต่อผิวอย่างไร?
พญ. พีรธิดา รัตตกุล เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้เลเซอร์รักษาโรคผิวหนัง ศัลยกรรมตกแต่งและปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำร้ายเซลล์ผิวหนัง
ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวอักเสบ ส่งเสริมการสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ผิวคล้ำ ฝ้า กระ และเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง แสงแดดประกอบด้วยแสงที่มองเห็นได้และแสงอินฟราเรด (อินฟราเรด) (แสงอัลตราไวโอเลต) (อัลตราไวโอเลต: UV) หรือ UV ที่เราคุ้นหูกัน
ดวงอาทิตย์ปล่อยรังสี UV ออกมา 3 ชนิด ได้แก่ UVA, UVB และ UVC ชั้นโอโซนของโลกดูดซับ สะท้อน หรือทำลายรังสี UVC ส่วนใหญ่โดยสิ้นเชิง เนื่องจากมีผลกระทบต่อผิวเพียงเล็กน้อย เราจึงมุ่งเน้นไปที่รังสี 2 ชนิดแรก ได้แก่ UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวมากมาย
- รังสี Ultraviolet A หรือ UVA สามารถแบ่งได้เป็น UVA-I และ UVA-II ในแสงแดดนั้นมี UVA มากถึง 95% รังสี UVA นั้นส่งผลร้ายต่อผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย ผิวคล้ำเข้ม เกิดจุดด่างดำ และเกิดการสร้างของอนุมูลอิสระ ส่งผลกระทบโดยอ้อมต่อดีเอ็นเอ การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และสามารถทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังบางชนิดได้
- รังสี Ultraviolet B หรือ UVB เป็นรังสีที่ทำให้เกิดการ Burn หรือผิวหนังไหม้เกรียมแดด ผิวอักเสบ ผิวแก่ก่อนวัย และยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็วผิวหนังได้ หากปล่อยให้ผิวสัมผัสแสงแดดบ่อยๆ โดยเฉพาะแดดช่วงเที่ยงหรือบ่าย หรือเมื่อฟ้าใส มีเมฆน้อย และปราศจากการป้องกันที่ดี
อยู่บ้านทาครีมกันแดดจำเป็นไหม?
ไม่ได้ออกไปไหนหากคุณต้องทำงานจากที่บ้าน หลายคนอาจจะจองแล้ว ครีมกันแดดยังจำเป็นอยู่ไหม? บางคนอาจเชื่อว่าถ้าไม่โดนแดดก็ไม่จำเป็นต้องทา อย่างไรก็ตาม บางคนอาจกังวลเกี่ยวกับแสง UV ที่ปล่อยออกมาจากเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ โทรทัศน์ หรือจอคอมพิวเตอร์
อันที่จริง อุปกรณ์เหล่านี้ผลิตรังสี UV น้อยมาก หรือหากมีอยู่ก็อยู่ในระดับที่ต่ำมาก ไม่มีผลเสียต่อผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ความกังวลหลักคือรังสี UVA จากแสงที่ส่องผ่านหน้าต่างหรือกระจก โฟตอน UVA สามารถไหลผ่านกระจกใสได้มากถึง 75% ของเวลาทั้งหมด ในขณะที่กระจกสีหรือกระจกสะท้อนแสงสามารถทะลุผ่านได้ 25-50% ของเวลาทั้งหมด (รังสี UVB ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกได้)
ดังนั้น แม้ว่าเครื่องใช้ในครัวเรือนจะไม่ค่อยปล่อยรังสี UV คุณควรใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่อาจเข้ามาทางหน้าต่างหรือกระจกเมื่ออยู่ในอาคาร แนะนำให้ทาครีมกันแดดเสมอ
โดยทาครีมกันแดด SPF และ PA (SPF 30 และ PA 3+) โดยปิดม่าน นั่งให้ห่างจากหน้าต่างให้มากที่สุด หรือเปลี่ยนกระจกใสเป็นกระจกลามิเนตและติดฟิล์มกรองแสงเพื่อกรองรังสี UVA ที่เดินทางผ่านกระจก รวมถึงหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ
Choosing a sunscreen
- เลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVB และ UVA โดยสามารถสังเกตได้จากค่า SPF และ PA ตามลำดับ โดยควรอยู่ที่ SPF 30 ขึ้นไป และ PA 3+ ขึ้นไป (ตามมาตรฐาน EU ในส่วนของหลักการพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดด ).
- เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติให้เหมาะกับกิจกรรมที่ทำ หากต้องทำงานที่บ้าน แนะนำให้เลือกเนื้อสัมผัสที่สบายผิว ไม่หนักผิวและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน อาจไม่ต้องเลือกแบบกันน้ำ กันเหงื่อ เพราะไม่ได้ทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกมาก
- ควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ถ้าผิวมัน ให้เลือกแบบเจลหรือแบบโลชั่น หรือเนื้อสัมผัสที่เราชอบ
- เลือกครีมกันแดดที่สามารถกันรังสีอินฟราเรด (IR) หรือรังสีความร้อนที่เราสัมผัสได้โดยตรง และแสงสีฟ้า (BL) ที่มาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต
- เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารก่อมะเร็ง เช่น Lanolin, PG หรือ Propylene Glycol ที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน อยากช่วยง่ายๆ แนะนำให้เลือกครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen ที่มีสารประกอบอย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เพราะจะอุดตันรูขุมขนน้อยกว่า และไม่ซึมเข้าสู่ผิว
- หากใช้แล้วเกิดผลเสียหรือแพ้ เกิดผดผื่น ให้หยุดใช้ทันที
- เลือกครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ไม่มีสารกันบูด ไม่มีน้ำหอม
- เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง
การทาครีมกันแดดที่เหมาะสม
- ถ้าทำงานที่บ้าน อยู่ในที่ร่มตลอดเวลาและไม่มีเหงื่อออก อาจไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องออกแดด ก็ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยไม่คำนึงถึงค่า SPF หรือ คะแนน PA อะไรก็ตาม
- ครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมต่อการทาผิวหน้า 1 ครั้ง ควรบีบครีมกันแดดอย่างน้อย 2 มิลลิกรัม หรือประมาณ 2 ข้อนิ้ว / เหรียญ 10 บาท หากเป็นแบบน้ำหรือสเปรย์ ควรใช้ในปริมาณที่มากกว่าครีม
- นอกจากใบหน้า อย่าลืมทาครีมกันแดดที่คอ หู และลำตัว
- หากใช้ครีมกันแดดแบบเคมี ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที
อย่างที่คุณเห็น ครีมกันแดดทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสียูวีของดวงอาทิตย์ ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA เพียงพอทุกวัน
ทั้งๆที่เราต้องทำงานหรืออยู่บ้านทั้งวัน นอกเหนือจากการป้องกันในรูปแบบอื่นๆ เช่น การติดฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง เพื่อปกป้องผิวจากริ้วรอย รอยดำ และผิวแก่ก่อนวัย
Related CTN News: