Chiang Rai News
ผู้ว่าฯเชียงรายเผยวัฒนธรรมแก้วเวียนยังคงเป็นปัญหาใหญ่
เชียงราย – ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายรายงานสถานการณ์ COVID-19 จากผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 23 รายเป็นจังหวัด 21 รายและมาจากพื้นที่จังหวัด 2 ราย ผู้ติดเชื้อ 58 คนอยู่ภายใต้หรือตรวจหา ATK 52 คนอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดและมาจากพื้นที่ต่างจังหวัด 6 ราย
พื้นที่อำเภอที่ยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องและมีกลุ่มหรือคลัสเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้น คือ อ.แม่สาย ซึ่งแม้จะพบผู้ติดเชื้อยืนยันแค่ 3 ราย แต่มีผู้ติดเชื้อเข้าข่ายกว่า 39 ราย และพบมีคลัสเตอร์เกิดขึ้น 7 คลัสเตอร์ โดยเฉพาะตลาดชายแดนต่างๆ ที่เริ่มกลับมาเปิดให้บริการและพ่อค้าแม่ค้าออกมาทำความสะอาดเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน
ส่วน อ.แม่จันมีจำนวน 8 คลัสเตอร์ พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นในวันนี้ 7 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเพิ่มขึ้นถึง 41 ราย ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย ได้ประกาศว่ามีคลัสเตอร์ที่มีผู้ป่วยลดลงแล้ว 5 คลัสเตอร์ แต่ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 3 คลัสเตอร์ คือ คลัสเตอร์บ้านห้วยไร่ (ซาเจ๊ะ) ต.แม่ไร่, ร้านนวดเขต ต.แม่จัน และบ้านรองคี (อาข่า) ต.ป่าซาง โดยจากการสอบสวนโรคพบว่าสาเหตุสำคัญของการระบาดคือการไม่สวมหน้ากากอนามัย การดื่มน้ำหรือสุราในแก้วเดียวกัน
ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า แม้จะพบคลัสเตอร์หลายแห่งในบางอำเภอโดยเฉพาะ อ.แม่สาย อ.แม่จัน ฯลฯ แต่สถานการณ์ในภาพรวมถือว่าดีขึ้นตามลำดับ ผู้ป่วยใหม่น้อยกว่าผู้ที่หายป่วยออกจากโรงพยาบาล มีการคลายล็อกการขนส่งมวลชนทั้งทางบกโดยรถโดยสารต่างๆ และเครื่องบินไปลงที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา ภายใต้มาตรการคัดกรองป้องกันเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เกิดการระบาดยังคงเป็นกรณีชุมชนหนาแน่นที่มีผู้คนมาจากหลากหลายพื้นที่ เช่น ชายแดนแม่สาย ฯลฯ การใช้แก้วน้ำเดียวแล้วดื่มเวียนกัน ซึ่งเป็นวิถีของชาวบ้าน เมื่อคนหนึ่งติดเชื้อก็แพร่ระบาดถึงกันได้ทั้งหมด 100% จึงต้องรณรงค์ให้มีการปรับตัว อาจให้แต่ละคนมีแก้วเป็นของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาคลัสเตอร์แก้วเวียนหรือวงเหล้าทำให้เกิดการระบาดรวดเร็วมาก