News
คนไทยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบเสี่ยงทางการเงิน
มีรายงานว่าคนไทยส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่เสี่ยงและไม่มีเงินออมในกรณีฉุกเฉินหรือชีวิตหลังเกษียณ สาเหตุหลักมาจากการเสพติดความสะดวกสบายซึ่งเงินจะถูกใช้ทันทีที่มันมาถึงมือของเจ้าของ
ข่าวดีก็คือกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยมีการเติบโตของเงินออมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เงินออมแสดงผ่านการออมตามปกติ ประกันชีวิต พันธบัตรและอื่น ๆ ข้อมูลนี้มาจากงานวิจัยของธนาคารออมสินได้พบว่าผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน มากกว่า 32% มีเงินออมเฉลี่ย 1,500 บาทต่อเดือนโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินและเป็นฐานในการลงทุนต่อไป โดยไตรมาสหนึ่งตั้งใจจะใช้เงินออมเพื่อการเกษียณอายุ
TMB bank (ธนาคารทหารไทย) ได้ทำการวิจัยในลักษณะเดียวกันซึ่งผลลัพธ์จากประชากรกว่า 35 ล้านคนนั้นน่าตกใจ กว่า 80% ของผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 54 ปีมีเงินออมซึ่งไม่น่าจะใช้ได้ถึง 6 เดือนและมีเพียง 20% เท่านั้นที่มีเงินออมเพียงพอที่จะอยู่ได้มากกว่า 20% ทั้ง Gen Y และ Gen X รวมอยู่ในงานวิจัยนี้และส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาทางการเงินคือพนักงานเงินเดือนและผู้ที่มีอาชีพรับจ้างอิสระ
นอกจากนี้กว่า 70% ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทยังประสบปัญหาทางการเงินส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล สาเหตุหลักมาจากวิถีชีวิตที่รวดเร็วและเสพติดความสะดวกสบายเช่น การรับประทานอาหารในร้านอาหาร พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่หรูหราและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
สิ่งที่แสดงให้เห็นถึง financial crisis (วิกฤติทางการเงิน) ที่กำลังซึมเข้าสู่ชีวิตของผู้บริโภคอย่างแท้จริงคือผู้ที่ถือบัตรเครดิตกว่า 50% ไม่สามารถชำระเงินได้เต็มเดือนและกว่า 48% เลือกที่จะผ่อนชำระโดยมีดอกเบี้ยแนบมาด้วย นี่เป็นนิสัยหรือความเคยชินที่แย่ โดยประเด็นหลักคือการใช้เงินในอนาคตหรือเรียกง่ายๆว่าเงินที่พวกเขายังไม่ได้รับ
เป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่นั้นก็เป็นความจริงที่มีเพียง 38% ของผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 54 ปีที่พิจารณาแยกบัญชีสำหรับการชำระเงินรายวันและบัญชีออมทรัพย์ กว่า 49% ยึดติดกับความคิดที่จะเลื่อนแผนการออมออกไปและค่อนข้างมุ่งเน้นไปที่ความสุขในปัจจุบัน โดยที่ 13% ไม่คิดแม้แต่จะเปิดบัญชีออมทรัพย์ มีเพียง 35% เท่านั้นที่สามารถประหยัดเงินได้อย่างคงที่ตลอดทุกเดือน โดยที่กว่า 21% ไม่เคยคิดแม้แต่จะวางแผนว่าจะทำอย่างไรกับรายได้ต่อเดือนนอกจากใช้จ่ายในแต่ละวัน
การค้นพบนี้ได้รับการยืนยันว่าคนไทยลงทุนเงินผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ได้อย่างไร Fabi Grasier (ฟาบี เกรเชอร์) ผู้ให้คำแนะนำแก่ผู้บริโภคผ่านทาง trusted-broker-reviews.com กล่าวว่าลูกค้าส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักจะลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง และเขาได้กล่าวเสริมว่าระบบต่างๆได้ถูกนำมาใช้เพื่อจำกัดจำนวนเงินลงทุนสำหรับนักลงทุนไทย